เพื่อไทย ผนึกพรรคเล็กได้ 228เสียง ภูมิธรรม โว บางกลุ่ม จ่อ ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

วันที่9ส.ค. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับแกนนำจาก6พรรคประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล

นพ.ชลน่านอ่านคำแถลงการณ์จัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติมและได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองแล้ว ขณะนี้เรารวบรวมเสียงทั้งหมดได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสลายขั้วการเมืองและเดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง และเสียงจากวุฒิสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลให้สามารถบริหารประเทศเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว

ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนอย่างรุนแรง การดึงเวลาออกไปจะทำให้เกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้น ยืนยันจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์โดยเฉพาะเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษท่ามกลางวิกฤตรัฐธรรมนูญ ขอวิงวอนให้พี่น้องมั่นใจในพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ขอให้ประชาชนสนับสนุนและช่วยกันฝ่าวิกฤตเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปและเกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้ากล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีความยินดีที่จะตอบรับร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำด้วยเหตุผล 1.พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคที่มีความชอบธรรมในฐานะพรรคลำดับสอง เมื่อพรรคลำดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็เป็นความชอบธรรมพรรคในลำดับถัดไป

2.ที่ประชุมได้มีการหารือกันทราบว่าเพื่อไทยได้รวมเสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่งแน่นอนทำให้มั่นใจว่ารัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก

3.พรรคเพื่อไทยได้ให้คำยืนยันว่า จะไม่มีนโยบายใดๆที่จะแก้ไขมาตรา112

4.พรรคเพื่อไทยมีความแน่วแน่แก้ปัญหาเศรษฐกิจพรรคจึงมีความมั่นใจทั้งการแก้ปัญหาพรรคเพื่อไมยในอดีตที่สำเร็จมาแล้วรวมทั้งบุคคลาการที่มีความพร้อม

5.วันนี้เกือบ3เดือนที่ไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งวันนี้เราจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศและการลงทุนต่อไปหากปล่อนให้เกิดสุญกาศจึงไม่เป็นผลดีกับประเทศ

นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้เป็นรัฐบาลพิเศษ ในสถานการณ์วิกฤต จึงขอแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทุกพรรค เรายังต้องการเสียงสนับสนุนให้พรรคเป็นแกนนำ มีนายกฯจากพรรคเพื่อไทย แม้จะยังมีความเห็นแตกต่าง อยากให้เอกสิทธิ์ของแต่ละคนมาร่วมกับเรา แต่ไม่ใช่การแยกคนจากพรรค มองว่า วิกฤติประเทศตอนนี้ใหญ่มาก ต้องการความร่วมมือทุกพรรค ทุกฝ่าย เรื่องที่บาดหมาง ขัดแย้ง ถ้าคิดเรื่องใหญ่ของประเทศ เรื่องเหล่านั้นถือว่าเล็กน้อย 
พรรคเพื่อไทย ยินดีขอโทษกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราอยากได้ความร่วมมือ เพื่อทำให้ประเทศพ้นวิกฤต 

เมื่อถามถึงข้อกังวลจากสว. นพ.ชลน่านกล่าวว่า แนวทางที่เราทำ ไม่ได้ทำให้สว.กังวล เพราะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล ที่ทำงานคือ ทำงานต่างสถานะระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และเรื่องแก้มาตรา112 ยืนยันว่า ไม่มีอยู่ในแนวนโยบาย คงทำให้สว.ไว้ใจ น่าจะให้เสียงสนับสนุนเราได้ 

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า ในการประชุมสส.เมื่อวันที่8ส.ค. เราได้ฟังเสียงสส. ซึ่งไม่มีสมาชิก ไม่เห็นด้วย ถึงขั้นที่ถ้าย้ายขั้ว ก็มีแค่ข้อห่วงใย เพราะอาจได้รับผลกระทบ สิ่งที่พรรคได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคม แต่ถึงขนาดเปลี่ยนฟากย้ายพรรค ไม่มี

ยืนยันพรรคเพื่อไทยเป็นเอกภาพ ทุกคนรับกับสภาพที่เป็นอยู่ได้ ผมก็สงสารสส.เพื่อไทยมา เพราะเขาก็รับเสียงกดดันจากพื้นที่พอสมควร แต่ทุกคนก็มีกำลังใจ พร้อมชี้แจงกับประชาชน ให้มีรัฐบาลของประชาชน เพื่อแก้วิกฤตประชาชน วิกฤตทางปากท้องให้ได้ 

นายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า บางพื้นที่มีความเจ็บปวด บางพื้นที่มีความเข้าใจ แต่ทุกคนก็อยากให้เราบรรลุเป้าหมายทางการเมือง รัฐบาลนี้ไม่สามารถคิดแบบเดิมได้ เราใช้ความมีส่วนร่วมของสมาชิกค่อนข้างเต็มที่ 

"เราเจรจากัน ถ้าเป็นไปตามระบบ ถ้ามาเป็นพรรคก็ดำเนินการตามนั้น บางส่วนถ้าเป็นกลุ่มมา ถ้าเข้าใจจุดหมายร่วมกันก็เป็นไปตามนั้น ถ้าบางคนอยากสนับสนุนร่วมกับเรา ชี้แจงประชาชน ประชาชนสนับสนุน ก็เป็นไปตามนั้น แต่ยังพูดชัดเจนกับท่านทั้งหมดไม่ได้ แต่ที่พูดกันข้างหลังนั้น เกินครึ่งไปแล้ว แต่เรายังต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความเข้มแข็ง อยากให้ท่านช่วยกัน เข้าใจในวิกฤตประเทศครั้งนี้ อยากให้สส. และสว. ที่มีเอกสิทธิ์ใช้เอกสิทธิ์ให้เต็มที่ แก้ไขวิกฤตประเทศ ถ้าจะมองพรรคนั้นมา พรรคนี้มา อาจไม่ถูกต้องนัก อาจมีบางกลุ่มมา บางคนมา แต่ทั้งหมดมาเพื่อวาระประเทศ"นายภูมิธรรมกล่าว  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจำนวนสส.แต่ละพรรคที่มาร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ประกอบไปด้วย พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า2เสียง พรรคพลังสังคมใหม่  1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง เมื่อรวมกับพรรคพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยที่มีเสียงตั้งต้นจัดตั้งรัฐบาล 212 เสียง จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้มี 228 เสียง