ชัยธวัช แฉ เพื่อไทย ห่วงสว.ไม่ไว้ใจ หากก้าวไกล โหวตให้เศรษฐา

ที่อาคารไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังมีการฉีกMOU 8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยขอไปรวมขั้วใหม่ตั้งรัฐบาลว่า พรรคก้าวไกลต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่านที่เราไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของประชาชนผ่าน การเลือกตั้งได้สำเร็จ ดังที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงไปแล้วในตอนบ่ายว่าหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะแยกกับพรรคก้าวไกลไปจัดตั้งรัฐบาลด้วยตนเอง การพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยได้แจ้งกับพรรคก้าวไกลว่าต้องการขอออกจาก MOU ทั้ง2ฉบับ คือ MOUการตั้งรัฐบาล และ MOU ที่ได้ทำร่วมกันตอนเลือกประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการขอให้พรรคก้าวไกล พิจารณาให้ถอยการเสนอแก้ไข มาตรา112 ที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเจรจากันเรื่องนี้ พรรคเพื่อไทยให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกันช่วงที่ผ่านมา ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมี 112 หรือไม่ก็ตาม

พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกล โหวตให้ แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 4ส.ค.นี้ เพราะถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค การพูดคุยกันเมื่อช่วงเช้า2ส.ค. แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้แสดงความกังวลใจด้วยว่า หากพรรคก้าวไกล จะโหวตให้ แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย อาจจะทำให้ สว.ไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยได้ว่า หากโหวตเสร็จแล้ว พรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล เป็นสาระสำคัญที่พูดคุยกัน 

พรรคก้าวไกลจึงขอเรียนประชาชนว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน หลังจากนี้ ก้าวไกลจะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ อย่างดีที่สุด ตามที่เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนที่มาจากการเลือดตั้ง เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกคน และผลักดันให้เกิดระบบเศรษฐกิจให้เท่าทันโลก และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเสมอภาคเท่าเทียม เราจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบราชการ สร้างรัฐที่โปร่งใสและเป็นธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน และทำงานอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เพื่อสร้างระบบการเมืองบ้านเราให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นระบบที่เสียงของประชาชนมีความหมายจริงๆสักวัน
 

ถามว่า จะมีการโหวตให้ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ในวันนี้ 4 สิงหาคม นายชัยธวัชกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีมติ จะมีการประชุมสส. ซึ่งก็เปิดให้ สส.แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และจะมีข้อสรุปกันอีกครั้งในวันที่3ส.ค. 

เมื่อถามว่า มองว่าพรรคเพื่อไทยแจ้งตอนนี้ ก่อนโหวตนายกรุฐมนตรีไม่กี่วัน กระชั้นชิดไปหรือไม่ รวมถึงเห็นสัญญานการแยกทางกันตั้งแต่เมื่อไหร่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรามีการพูดคุยกันเป็นระยะ ซึ่งคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร

ถามว่า การทำงานร่วมกันในอนาคตกับพรรคเพื่อไทยจะทำงานกันต่อได้หรือไม่ เพราะมีกฎหมายหลายฉบับของพรรคก้าวไกลที่พรรคเพื่อไทยพร้อมจะผลักดันนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า MOU หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ทั้ง MOU 8พรรค และ MOu ระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกลตอนที่เลือกประธานสภา ซึ่งMOUฉบับหลังมีส่วนสำคัญคือมีการตกลงว่า จะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปฏิรูปกองทัพ การนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ซึ่งก็ไม่มีอีกแล้ว ในฐานะสส. เรายังเสนอแนะมาตรการต่างๆที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ หวังว่า สส.แม้ว่าจะไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกัน แต่เข้าไปเป็นฝ่ายค้าน ก็หวังว่าฝ่ายรัฐบาลจะเห็นชอบด้วย

ถามอีกว่า จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านทำหน้าที่ในสภาได้หรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า  ยังไม่ได้จบอย่างเป็นทางการ อย่างที่แถลงไปแล้ว ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะอยู่ในฐานะไหน แต่เราก็จะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุด เพื่อผลักดันนโยบายของเราผ่านสภา

ถามย้ำว่า ในอนาคตจะสามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้านจริงๆ ก็สามารถที่จะผลักดันหลายๆอย่างได้ และที่ผ่านมาในสมัยสภาที่แล้ว แม่ว่าร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะไม่เคยผ่าน แต่ในครั้งนี้เราหวังว่า น่าจะมีหลายฉบับผ่าน หากพรรครัฐบาลเห็นชอบ ว่ามันเป็นประโยชน์ส่วนรวมจริงๆ 

เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทย เชิญ 5พรรคฝั่งตรงข้ามมารับฟังสุดท้ายไม่ได้ข้อตกผลึก พรรคก้าวไกลมองว่า พรรคเพื่อไทยให้เกียรติหรือปิดโอกาสในการชี้แจง8พรรคร่วมหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าเหตุผลที่แท้จริง อย่างที่พรรคก้าวไกลเคยชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่า เรื่อง มาตรา112 เป็นแค่ข้ออ้าง ฝ่ายการเมืองจำนวนมากโดยเฉพาะอำนาจเก่า ไม่ได้ต้องการที่จะเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่อง 112 หลายพรรคที่เคยแถลงกับพรรคเพื่อไทยก็พูดชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวทางไม่ตรงกัน 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้แจ้งหรือไม่ว่าจะเอาพรรค2ลุงมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า ยังไม่ได้แจ้งชัดเจน เท่าที่อ่านคำแถลงของเพื่อไทยตอนบ่ายก็ขอให้รอฟังพรุ่งนี้ทีเดียว 

เมื่อถามถึงความรู้สึกของพรรก้าวไกลว่า อยากจะระบายอะไรออกมาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย เราได้เคยพูดไปกับสังคมแล้วว่า ปัญหาของการเมืองไทยจริงๆนั้น อำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาชน จึงเป็นปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยในยุคสมัยนี้ จึงเป็นภารกิจของพวกเราที่จะผลักดันเปลี่ยนแปลงสุดความสามารถ ให้กลับมาเป็นระบอบประชาธิปไตยตามปกติที่เสียงและอำนาจของประชาชนสำคัญที่สุดน 

ถามว่าถ้ามีการรวมเสียงของ 2พรรคลุงมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลจะมีท่าทีอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกลแล้ว การพูดคุยเมื่อเช้า เข้าใจซึ่งกันและกัน 

เมื่อถามว่า สส.และอดีต สส.ของพรรคหลายคน อยากให้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ร่วมรัฐบาลกัน แต่วันนี้ฉีก MOU แล้วจะมีการเคลียร์ความรู้สึกกับ สส.อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าทุกคนเข้าใจสถานกานณ์ แน่นอนว่า เราอยากเห็น8พรรคการเมืองจับมือกันแน่น ไม่เชื่อว่าจะมีการพลิกขั้วรัฐบาล แต่ ถึงตอนนี้ พรรคเพื่อไทยตัดสินใจออกจาก MOU แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน แล้วพรรค2ลุงก็เป็นฝ่ายค้าน จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ปกติการเลือก คือการเลือกพรรคมาร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคที่ไม่ได้ถูกเลือกมาร่วมรัฐบาลก็จะเป็นฝ่ายค้าน มันไม่มีใครมีสิทธิเลือกซึ่งกันและกัน คงไม่มีการจับขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า หากได้รัฐบาลใหม่และมีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้จริงๆการเลือกตั้งก็คงเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง