ชัยธวัช ให้สิทธิ เพื่อไทย เชิญ ก้าวไกล ออกจากการตั้งรัฐบาลหรือไม่

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมส.ส.พรรคก้าวไกล ถึงกรณีการเลื่อนการประชุม แกนนำ8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ได้รับแจ้งจากพรรคเพื่อไทย ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมีไม่มากเท่าที่ควร จะมีการนัดหมายกันอีกครั้งเมื่อไหร่ ยังไม่ได้แจ้ง ส่วนที่พรรคไทยสร้างไทย ไม่สนับสนุนให้แก้ มาตรา112 เป็นสิ่งที่เราได้คุยกันมาโดยตลอดตั้งแต่ทำ MOU คือ ม.112 ไม่ได้เกี่ยวข้องในการร่วมรัฐบาล 

เมื่อถามว่า 8 พรรคการเมืองยังจับมือกันแน่นอยู่หรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่า ข้าวต้มมัดเริ่มปริ นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งสรุปแบบนั้น

เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขอให้เพื่อไทยเป็นแกนนำ ทำMOU ใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ส่งสัญญานมา การที่พรรคเพื่อไทยขอเลื่อนประชุม สะท้อนว่า มีการพยายามหาทางออก ให้ดีที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ตอนนี้ทางฝั่งตนได้พูดคุยกับทางสว.ที่คราวที่แล้วยังไม่ได้โหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอนนี้ก็มีสัญญาณจากหลายคนว่า พร้อมจะโหวตให้ หากมีการเปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

ถามว่า ยังไว้ใจพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมีความไว้วางใจ

ถามอีกว่าจะต้องบอกกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ไม่เอาพรรคสองลุง นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยน่าจะทราบจากข่าวอยู่แล้วว่า มติที่ประชุมสส.เป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลยังยึดมั่น ในเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้พื้นฐานของ8พรรคการเมือง ให้สำเร็จตามเจตจำนงค์ที่ประชาชนได้ให้ไว้แล้วภายหลังการเลือกตั้ง ส่วนการร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น คงต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคเพื่อไทยแม้จะมีการเชิญมาพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่เชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่เป็นการรับฟังความคิดเห็น 

นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่กังวลว่า การตั้งรัฐบาลจะไปถึงพรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ3 หากพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจับมือกันแน่น การพลิกขั้วรัฐบาลไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ คิดว่า การที่จะให้พรรคการเมืองจับมือกันแน่นคือประชาชน

เมื่อถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ตอบรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเป็นแนวทางในการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาโดยตลอดว่า อะไรที่เป็นอำนาจของสภาอยู่แล้ว เราไม่เห็นด้วยกับการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือสภา เพราะสภามีอำนาจเต็มหลายๆเรื่อง ยกเว้นกรณีที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญมาเกี่ยวข้อง การให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมาชี้ว่า สภาทำอะไรได้หรือไม่ได้ เรามีจุดยืนมาโดยตลอด สาเหตุที่ทำไม สส.ก้าวไกล ถึงไม่ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีคนแนะนำเยอะมาก และเชื่อว่า สภายังคงมีทางออก หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง สามารถใช้ระบบสภามาหารือร่วมกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น 

กรณีมีข้อเสนอให้รอการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป 10 เดือน หลัง สว.หมดวาระ นายชัยธวัชกล่าวว่า เป็นการแสดงออกถึงว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่รอได้ แต่ 10 เดือน มันอาจจะนานเกินไป ทางที่ดีควรมีทางออกโดยที่ไม่ยืดเวลาออกไปนานขนาดนั้น การปลดล็อคข้อบังคับที่ 41 จะช่วยได้มาก ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือกันแน่น รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่มีทางเกิดขึ้น และถึงที่สุด สว.อาจจะมีวิจารณญาณทำตามเสียงประชาชน

เมื่อถามว่าหากถึงที่สุดพรรคก้าวไกลต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน จะเลือกเดินออกไปเองหรือให้พรรคเพื่อไทยเป็ยผู้เชิญออก นายชัยธวัช ตอบว่า หากเมื่อถึงสถานการณ์นั้นจริง เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องเลือก สิ่งที่พรรคก้าวไกลเลือก พยายามทำให้ดีที่สุด ให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ตามเสียงของประชาชน