เศรษฐา ไม่กังวล ชูวิทย์ เตรียมแฉ สมัยทำธุรกิจ มั่นใจในความบริสุทธิ์

ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้มีส่วนกับคณะเจรจา จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลวันที่20 ก.ค. ได้ฟังแกนนำพรรคเพื่อไทยเล่าถึงการพูดคุยระหว่างสองพรรคแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยบอกให้ต่างฝ่ายต่างกลับไปพูดคุยกัน ขอให้รอ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ชี้แจง 

เมื่อถามว่าหากหลังวันที่ 25 ก.ค. พรรคเพื่อไทยเคาะรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะไม่ช้าไปใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ช้าไป เพราะยังมีเวลา เนื่องจากจะมีการโหวตในวันที่ 27 กรกฎาคม ต้องให้เกียรติ 8 พรรคที่ทำงานร่วมกันมา พรรคอันดับ 1 ก็ต้องกลับไปเจรจา 

เมื่อถามว่าแม้ยังไม่ได้ขึ้นในตำแหน่งนายกฯ แต่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มีหลักฐานเตรียมแบล็คเมล์ นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ใช้คำว่าแบล็คเมล์กับนายชูวิทย์ ก็แรงเกินไป เขาบอกว่า มีข้อมูลมา ตนทำธุรกิจมานานก็มั่นใจว่า บริษัทเก่าที่ทำมาก็ทำมาด้วยดี  ไม่ได้มีอะไร 

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะถูกแฉเหมือนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายเศรษฐานิ่งและยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถาม จนผู้สื่อข่าวต้องถามย้ำว่ากังวลหรือไม่อีก 2 ครั้ง ซึ่งนายเศรษฐา จึงถามกลับว่า กังวลว่า 

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าจะถูกแฉเหมือนที่นายพิธาเคยโดน นายเศรษฐา จึงตอบว่า เขาก็แฉกันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ามา ก็บอกว่าจะมีเรื่องแฉ ก็ไม่เป็นอะไร เข้าใจว่ามาอยู่ตรงนี้แล้วต้องระมัดระวังเป็นธรรมดา มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร ก็ปล่อยไปก็แล้วกัน
 

เมื่อถามถึงกระแสข่าว นายเศรษฐา วางเงื่อนไข หากถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่เห็นเงื่อนไขของผมเองเลย ไม่รู้ว่าเป็นข่าวลือกันหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ให้รอ 8 พรรคพูดคุยหาข้อสรุปเป็นบรรทัดฐานออกมา มีการแถลงและเดินไปอีกขั้นก่อนดีกว่า และพร้อมก็จะบอก ตอนนี้ไม่มีอะไรที่อยากแถลงหรือมีข้อกำหนดเงื่อนไขอะไร ไม่มี 

เมื่อถามย้ำว่าเงื่อนไขดังกล่าว คือ ต้องไม่มีพรรคประชาธิปัตย์และรวมไทยสร้างชาติ และขอเป็นคนจัดตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีเอง นายเศรษฐากล่าวว่า จัดต้้ง มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ มันเป็นรัฐบาลผสม เดี๋ยวต้องว่ากันอีกที ส่วนเงื่อนไขจะร่วมกับใครหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรคพิจารณา