ปริศนา นายกรัฐมนตรีคนต่อไป คนในรอลุ้น คนนอก รอเสียบ ?

นับตั้งแต่19ก.ค.66  'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กลายเป็นอดีต ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ ยุติปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมา จากการถือครองหุ้น ไอทีวี และถูกตอกย้ำจาก เสียงส่วนใหญ่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาฯ ไม่ให้เสนอชื่อ นำมาโหวตซ้ำ เป็นการรูดม่าน ปิดฉาก พิธา กับการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 

 

การเมืองยังต้องเดินหน้าต่อไป 'วันมูหะมัดนอร์ มะทา' ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา นัดหมายการประชุมร่วมรัฐสภาฯ วันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ค. เพื่อลงมติ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง 

 

นายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะเป็นใคร ?

พรรคเพื่อไทย 'แพทองธาร ชินวัตร' 'เศรษฐา ทวีสิน' 'ชัยเกษม นิติสิริ' 
พรรคภูมิใจไทย 'อนุทิน ชาญวีรกูล' 
พรรคพลังประชารัฐ 'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' 
พรรครวมไทยสร้างชาติ 'พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค'

 

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง ที่พอจะได้ลุ้นจาก 'ความเป็นจริง' ในตะกร้าการเมือง พรรคที่มีส.ส.เกิน 25คน มีสิทธิ์เสนอรายชื่อได้ 

 

พิธา หมดสิทธิ์เป็นนายกฯ ทำให้โอกาสมาเป็นของ พรรคเพื่อไทย พรรคที่ได้รับคะแนนเสียงเป็นลำดับที่สอง 'เศรษฐา ทวีสิน' มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงสุด จะถูกเสนอชื่อ   

 

เศรษฐา พร้อมรับ การเสนอชื่อ รอเพียงขั้นตอนทางธุรการ มติกรรมการบริหารพรรค มติที่ประชุมส.ส. เคาะออกมาอย่างเป็นทางการ ในช่วงสัปดาห์หน้า

เศรษฐา ได้รับการสนับสนุนจาก 'แพทองธาร ชินวัตร' และ สส.อีกหลายคน ออกปากสนับสนุน แต่ขึ้นชื่อว่า การเมือง เกมการเมือง ระยะเวลาที่เหลือ 7 วันที่เหลือ ที่ต้องตามลุ้นเกาะติดกันวันต่อวันจะมีเหตุอะไรเปลี่ยนแปลง หรือไม่ 

 

นักยุทธ์ศาสตร์การเมือง โจทย์ของเพื่อไทย อาจไม่ได้ง่ายเสียทีเดียว มีคำผูกมัด ที่เคยพูดต่างกรรมต่างวาระ ที่ต้องไปกำหนดทิศทาง จัดวางการเดินให้รอบคอบ รัดกุม

 

-แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนกราน 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ยังผูกมัดกันแน่ ไม่มีการผลัก พรรคก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน

-แต่ในระดับ แกนนำเพื่อไทยที่มีอำนาจกำหนดทิศทาง กลับคิดหนักการจัดสมดุล ทั้งในมิติ พรรคในฝ่ายประชาธิปไตย ที่ประชาชนอยากให้จับมือกันตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ แต่ด้วยเงื่อนไขเฉพาะ ท่าที แนวคิด นโยบายก้าวไกลหลายข้อ ที่อาจนำพาไปด้วยกันไม่ได้

-ปัจจัย ทักษิณ ชินวัตร ยังมีอิทธิพลทางความคิดอย่างสูงในพรรค เงื่อนไข รายละเอียด การกลับประเทศ ปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม การเลือกจัดวาง แคนดิเดตนายกฯ ในพรรค ย่อมเกิดแรงเหวี่ยง ที่แตกต่างกัน 

-ปัจจัยท่าที สมาชิกวุฒิสภา(สว.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) พรรคการเมืองต่างๆ พร้อมพลิกขั้วมาโหวตให้ ยังติดเงื่อนไข หากเพื่อไทย ผูกติดกับ พรรคก้าวไกล ไปด้วยกัน ในประเด็นอ่อนไหว การแก้มาตรา112  ก็จะไม่โหวตให้ 

- เสียงส่วนใหญ่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา การเสนอชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีชื่อเดิม ได้รอบเดียว อาจเป็น บรรทัดฐานใหม่ ทางการเมือง เท่ากับเป็นการ ผูกมัด แคนดิเดตนายกฯที่จะถูกเสนอชื่อมาโหวต ในครั้งต่อไปจะกระทำได้เพียงครั้งเดียว

- สว.ฝ่ายกุมกำลัง ยังไม่ส่งสัญญาณชัด พร้อมโหวต แคนดิเดตนายกฯ เศรษฐา ทั้งหมดหรือไม่

- ชื่อของ เศรษฐา จะยืนระยะไปถึง วันโหวตนายกฯ 27ก.ค. และจะจบใน ม้วนเดียว ในวันนั้นหรือไม่

ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนเป็นเรื่องให้ต้องนำมา บวกลบคูณหาร กำหนด หมากเดินทางการเมือง

 

ขณะเดียวกัน ในอีกมุมหนึ่งทางการเมือง เริ่มมีกระแสพูดถึงชื่อ 'นายกรัฐมนตรีคนนอก' ที่มีคนให้คำจัดกัดความ บ่งบอกตัวย่อ และให้นิยามไว้ว่า 'ชายนักบริหาร มีโปรไฟล์ดี ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย' ถูกโยนชื่อออกมา เพื่อเช็กกระแส หยั่งท่าทีกันในบ้างแล้ว 

ในวันที่ แคนดิเดตนายกฯฯ มีชนักติดหลัง ใครก้าวขึ้นมา เรื่องราวในอดีตตามหลอกหลอน ดันใครขึ้นมา เกิดความไม่ไว้วางใจ หรือแม้แต่ ถ้าได้บริหารงาน อายุงานอาจสั้นกว่าที่คิด

นายกฯคนใน โจทย์การเมือง ที่มี พรรคการเมือง สส. สว. เป็นตัวแปร และกับดักการเมือง พร้อมหักเหลี่ยม เฉือนคมกันได้ตลอดเวลา

ขณะที่ นายกฯคนนอก ท่ามกลางสถานการณ์ อันไม่น่าไว้วางใจ เงื่อนไขรัฐธรรมนูญ272 ที่เปิดช่อง ก็ตัดโอกาสแห่ง 'ความน่าจะเป็น' ...ไม่ได้เช่นกัน