posttoday

'สมชาย'ไม่ขัดก้าวไกลเปิดทางเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน

17 กรกฎาคม 2566

สมชาย แสวงการ ไม่ขัด ก้าวไกลเปิดทางเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เตรียมเสนอที่ประชุมวิป3ฝ่าย ค้านชงชือพิธาโหวตนายก รอบ2 ผิดข้อบังคับการประชุม

ที่อาคารรัฐสภา  นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการเสนอชื่อ ที่ออกคลิปว่า หากวันที่ 19 ก.ค. นี้ ยังไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา จะยอมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน 

ทั้งนี้ เป็นเรื่องของ 8 พรรคร่วมฯ ที่จะไปเจรจากัน เนื่องจากพรรคก้าวไกลเสนอชื่อนายพิธาเพียงคนเดียว หากมีตัวเลือกอื่นก็ไม่ขัดข้อง ส่วนจะมีการเปลี่ยนขั้วสลับข้างตนก็รับได้ แต่ก็จะอภิปรายซักถามแคนดิเดตนายกฯ แทนประชาชนเหมือนเดิมว่ามีนโยบายอย่างไรบ้าง แต่ในทางกฎหมายเรามองว่า ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีกแล้ว เนื่องจากเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว 
 

ส่วนหากมีการสลับเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังมีก้าวไกลร่วมอยู่ ส.ว.จะเห็นชอบหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม จะต้องดูว่าจะเสนอใครมาเป็นแคนดิเดตฯ พร้อมมองว่า หากจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง ก็ควรมีเวลาให้ ส.ว.ไม่ใช่ทำอย่างเร่งรีบ เพราะ ส.ว.ก็มีภารกิจที่ต้องทำ พร้อมจะนำเรื่องนี้เสนอต่อประธานรัฐสภาในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย พรุ่งนี้ (18ก.ค.66) ว่าให้ฟังความเห็นของ ส.ว.เช่น ความเห็นเรื่องข้อบังคับการประชุมที่ 41 ถ้าหากจะเปลี่ยนแปลง ก็ไม่ควรประชุมวันที่ 19 ก.ค. แต่อาจจะเว้นสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมมาตอบคำถามของ ส.ว. ในเรื่องของนโยบายต่างๆ 

สำหรับกรณีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดปิดสวิตช์ ส.ว. นายสมชาย มองว่า จะไม่ส่งผลต่อการโหวตในวันที่ 19 ก.ค. นี้ และจะยิ่งทำให้ย่ำแย่ลงต้องใช้กระบวนการประมาณ 3 เดือน รวมทั้งต้องใช้เสียงของ ส.ว. ถึง 1 ใน 3 และใช้เสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลเลย  ตนจึงมองว่า การยื่นมาตรา 272 ไม่ได้หวังผลสำเร็จแต่ไปสอดรับกับยุทธศาสตร์หลายขา ทั้งให้โซเชียล หรือมวลชนไปปิดล้อม กดทับ ทั้งเชิญชวน และขอร้องให้ปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นยุทธวิธีทางการเมืองที่เราเข้าใจยิ่งทำยิ่งเป็นผลร้าย

นายสมชาย กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าหากใช้วิธีการปกติไม่มีการคุกคาม และพยายามตอบคำถามของ ส.ว.เรื่องนโยบายที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ ถ้าพรรคก้าวไกลตอบได้ก็ยินดีสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เป็นหน้าตา และปากเสียงให้กับฝ่ายบริหาร แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ถอยกลับไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นกรรมาธิการ และฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพได้