'ประพันธุ์'ยกข้อบังคับประชุมรัฐสภาปิดทางเสนอชื่อพิธาชิงนายกฯ
ส.ว.ประพันธุ์ คูณมี ยกข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่41 ปิดทางก้าวไกลเสนอชื่อพิธาโหวตเป็นนายกฯรอบสอง ชี้ทางออกประตูเดียวให้สมาชิกรัฐสภา 500เสียงเห็นชอบก่อน
นายประพันธุ์ คูณมี ส.ว. กล่าวว่า การเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการโหวตนายกฯของที่ประชุมรัฐสภาครั้งต่อไปถือว่าจบแล้ว เพราะการเสนอชื่อโหวตนายกฯรอบแรก นายพิธาได้รับเสียงเห็นชอบเป็นนายกฯ ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกของสองสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ทำให้ญัตติการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นอันตกไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่41 กำหนดว่า ญัตติใดที่ตกไปแล้วห้ามนำญัตติที่มีหลักการเดียวกันเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกันเว้นแต่ญัตติที่ไม่มีการลงมติหรือประธานสภาอนุญาต เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หากจะนำญัตติเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกฯ กลับมาอีกในสมัยประชุมปัจจุบันต้องมีเหตุเปลี่ยนแปลงตามมาตรา 272 วรรคสองเท่านั้น
นายประพันธุ์ ขยายความต่อในมาตรา272 วรรคสอง ด้วยว่า ตามหลักการหากโหวตครั้งแรกไม่สามารถได้บุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ว่าด้วยเหตุใด ประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจที่จะเปิดให้มีการลงคะแนนใหม่เองได้ ต้องให้สมาชิกรัฐสภารวมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาตามมาตรา 272 วรรคสอง และต้องได้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกสองสภา หรือ 500 เสียงจึงจะทำให้นายพิธา ฐานะผู้ที่เคยได้รับการเสนอชื่อให้โหวตเป็นายกฯ กลับมาเสนอได้อีก หากดำเนินการใดๆนอกจากแนวทางนี้ ย่อมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
"เมื่อรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้เช่นนี้แล้ว จึงไม่เปิดช่องทางอื่นให้นายพิธาถูกเสนอชื่อกลับมาให้รัฐสภาโหวตโดยง่ายหรือโหวตเลือกนายพิธาฯซ้ำซากไปเรื่อยๆจนสิ้นวาระของวุฒิสภา" นายประพันธุ์ กล่าว
นายประพันธุ์ กล่าวอีกว่าในระหว่างนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธา หยุดปฎิบัติหน้าที่ไม่ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะเสนอชื่อนายพิธาให้รัฐสภาพิจารณา ดังนั้นจึงไม่ควรไปปลุกให้ความหวังของกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนแบบผิดๆ ควรยอมรับและเคารพมติโดยชอบของรัฐสภาความดื้อรั้นมีแต่เกิดหายนะกับตนเอง


