posttoday

ราเมศ ชี้ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนกระแสกดดัน โหวต พิธา เป็นนายกฯ

07 กรกฎาคม 2566

ราเมศ ย้ำจุดยืน พรรคประชาธิปัตย์ ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิกมาตรา112 ไม่สน กระบวนการสังคมกดดัน ต้องโหวต พิธา เพื่อทำตามเสียงข้างมาก ประชด หากเป็นเช่นนั้น จะตั้งพรรคทำไม ยุบรวมพรรคก้าวไกลดีหรือไม่ ยกหลักประชาธิปไตย เสียงข้างมากต้องฟังเสียงข้างน้อยด้วย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตอบคำถามสื่อมวลชน หลังจากแถลงข่าวถึงความพร้อมในการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่9ก.ค. ที่โรงแรมมิราเคิ่ลแกรนด์ ถึงความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องลงมติเลือกนายกฯที่มาจากเสียงข้างมากว่า การดำเนินกิจกรรมการเมืองจะบีบให้พรรคทำตามเสียงข้างมากทั้งหมดไม่ได้ ระบบประชาธิปไตยในรัฐสภา มีทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล ถ้าอ้างระบบประชาธิปไตย สิ่งไหนที่พรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ต้องรับฟังด้วย อย่างไรก็ดีหากพรรคก้าวไกล ยังยืนยันแก้ไขมาตรา112 พรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันเช่นกัน เราจะไม่มีการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา112 ถือเป็นเจตนารมณ์ของพรรค และร่างที่พรรคก้าวไกล ยื่นต่อสภาฯไม่ใช่ร่างแก้ไข แต่เป็นการให้ยกเลิกมาตราดังกล่าว 

เมื่อถามว่ามีกระแสเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ เคารพหลักการ พรรคอันดับหนึ่งเมื่อได้รับเลือกมา ควรโหวตให้แคนดิเดต ได้เป็นนายกฯ รวมทั้งเรื่องประเด็นการแก้ไขมาตรา112 ควรแยกออกมาจากการเลือกแคนดิเดดนายกฯออกจากม.112 นายราเมศ กล่าวว่า เรื่องมาตรา112 เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการพิจารณาของสมาชิกรัฐสภา ถามว่าถ้าทุกคะแนนเสียง หรือว่าเป็นประเพณีปฏิบัติว่าใครจะเป็นนายกฯไม่ต้องมีฝ่ายค้าน ไม่ต้องมีฝ่ายรัฐบาล ไม่ต้องมี 8 พรรคแกนนำไปจัดตั้งรัฐบาล แต่รวมทุกพรรคการเมืองเลยจะโหวตนายพิธา เป็นนายกฯ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาฯใช้สิทธิ์ ใช้ดุลพินิจได้ เรื่องมาตรา112 เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่ง สมาชิกรัฐสภาฯสามารถใช้ประกอบดุลยพินิจในการพิจารณาคิดในการจะเลือกใครมาเป็นนายกฯ 

"ถ้าจะบอกว่าเสียงข้างมากชนะเลือกตั้งแล้ว มาบังคับว่าประชาธิปัตย์เลือก นายพิธาเป็นนายกฯ เราจะตั้งพรรคการเมืองไปทำไม ยุบไปรวมกับพรรคก้าวไกลดีหรือไม่ หลักประชาธิปไตยต้องรับฟังเสียงข้างน้อย ไม่ใช่ว่าเสียงข้างมากบอกได้มา14 ล้านเสียงแล้ว พรรคนี้ไม่ยกมือให้เขาเป็นนายกฯ ใช้กระบวนการสังคมประชาชนมากดดันว่า คุณไม่ยกมือให้เขาไม่ได้ ซึ่งสังคมตอบรับเขาล้นหลามทั้งประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสิทธิ์คิดหรือว่าเขาจะเลือกใครเป็นนายกฯ เราต้องทำตามกระแสแบบนั้นหรือ มันไม่ใช่ ที่พูดไม่ได้ใช้ความรู้สึกส่วนตัว หรือความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ เหมือนสิทธิของประชาชนทั่วไป "นายราเมศกล่าว