posttoday

แม่ทัพภาค4สั่งดำเนินคดีผู้จัดงานเสวนาเอกราชปาตานีฐานเป็นกบฏ

25 มิถุนายน 2566

แม่ทัพภาค4 ส่งกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความผู้จัดงาน-ร่วมงานเสวนาเอกราชปาตานี ดำเนิน4ข้อหา กบฏ ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เป็นอั้งยี่-ซ่องโจร

กรณีกลุ่มขบวนนักศึกษาแห่งชาติจัดเสวนาในหัวข้อ “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี”  เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 

ต่อมาพล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาค4 ผอ.รมน.ภาค 4 มอบหมายให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเข้าพบพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ยื่นหนังสือกล่าวโทษให้สืบสวนสอบสวนดำเนินคดี กับบุคคลและคณะบุคคล ทั้งกลุ่มนักศึกษา พรรคการเมือง นักการเมือง ภาคประชาสังคม ที่เกี่ยวข้องกับการจัด เสวนา “การกำหนดอนาคตตนเองในสันติภาพปาตานี” ที่ห้องประชุม ศรีวังสา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2566 จำนวนมากกว่า10ราย ในข้อ4กล่าวหา ประกอบด้วย 

1.ร่วมสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใดอันเป็นส่วนของแผนการเพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏ แล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 114 ระวางโทษจำคุก 3-15 ปี 

2.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยว่าจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต

(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ 
(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี 

3.เป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท 

4.สมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวล่าสุด

หุ้นไทยปิดพุ่ง 19.30 จุด แรงซื้อหุ้นใหญ่ รับเคาะวันเลือกตั้งชัดเจน 8 ก.พ.69