ศาลปกครองสูงสุด สั่ง ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูล นาฬิกายืมเพื่อน ประวิตร

วันที่ 16 มิ.ย. ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาคดีแดงหมายเลข 1327/2564 ระหว่าง นายพงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์ ผู้สื่อข่าว The MATTER ในฐานะผู้ฟ้องคดี กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ 1 กับพวก รวม 3 คน ผู้ถูกฟ้องคดี

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น สั่งให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผย เอกสารสำคัญ 2 รายการ ได้แก่

1.รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2561 รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

2.คำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรต่อ ป.ป.ช. ทั้ง 4 ครั้ง เนื่องจากคำชี้แจงของ ป.ป.ช. ทั้ง 7 ประเด็นนั้น ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง

ศาลปกครองสูงสุดให้เหตุผลโดยสรุปว่า ข้อมูลที่ผู้ร้องขอให้ป.ป.ช. เปิดเผยเป็นข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของป.ป.ช. และมีที่มาจากการปฏิบัติหน้าที่ของป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นข้อมูลข่าวสารราชการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (กวฉ.) 

ข้อมูลที่ผู้ร้องขอขอให้เปิดเผยไม่ได้มีลักษณะจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรืออาจทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามเสื่อมประสิทธิภาพหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ ป.ป.ช. ข้อมูลดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วเป็นคนละมูลกับกับกรณีที่อ้างมา การเปิดเผยข้อมูลจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของป.ป.ช. รวมถึงข้อกล่าวอ้างอื่นๆ ที่ป.ป.ช. ยกอ้างขึ้นอุทธรณ์ก็ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน  
 
การเปิดเผยข้อมูลจะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสของป.ป.ช. อันเป็นการคำนึงถึงหลักประโยชน์สาธารณะและประโยชน์เอกชนที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับคดีดังกล่าว นายพงศ์พิพัฒน์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้พิจารณา กรณีป.ป.ช. มีมติเมื่อ27ธ.ค.2561 ไม่ไต่สวนประเด็น ข้อหาไม่แจ้งทรัพย์สินของพล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกาหรูหลายเรือน ตามที่พล.อ.ประวิตรกล่าวอ้างว่า ยืมมาจากเพื่อน และแหวนของมารดา โดยป.ป.ช.ชี้แจงเพียงว่า เป็นของยืมมาจริง จึงไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน