posttoday

พิธา อัด ขบวนการสร้างหลักฐานใหม่ สกัด นั่งนายกรัฐมนตรี

13 มิถุนายน 2566

พิธา จวก ขบวนการสร้างหลักฐานใหม่ ขวางไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 ไม่หวั่นฟื้นไอทีวี ตั้งข้อหามาตรา151 ยัน ฝ่ายกฎหมายมีหลักฐานแน่น ชี้แจงได้ ระบุ วิษณุ เข้าใจคลาดเคลื่อน หยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังเสนอชื่อนายกฯได้ พร้อมยื่นบัญชีทรัพย์สินป.ป.ช.ก่อน 18มิ.ย.

วันที่12มิ.ย. ที่สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคลิปการประชุม ผู้ถือหุ้นไอทีวี และกระบวนการเพื่อไม่ให้ขึ้นสู่นายกรัฐมนตรีว่า ตามที่เคยได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้ มีกระบวนการที่จะฟื้นไอทีวี ขึ้นมาก่อนที่จะมีคลิปด้วยซ้ำ มีคนส่งข้อมูลมาให้ตนมากกว่าที่เห็นอยู่ในคลิป ซึ่งเห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ทำเอกสารตามประชุมกับคลิป ก่อนที่จะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ขณะนี้คณะทำงานกฎหมายของทางพรรค ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากคนที่เกี่ยวข้อง ในกระบวนการเหล่านี้ที่ส่งข้อมูลเข้ามาให้

การที่กกต.มีการหยิบมาตรา 151 มาวินิจฉัย ก็ไม่ได้หลุดไปจากฉากทัศน์ที่คิดเอาไว้แล้ว เพราะเกิดขึ้นกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มาก่อน อาจจะมีการเข้าชื่อของส.สเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาหรือศาลอาญาด้วย ถ้าใครติดตามการเมืองน่าจะเดาออกว่า อาจจะมี 3-4 ช่องทางที่จะเกิดขึ้น ขณะนี้มีคนส่งข้อมูลมาถึงพรรคจำนวนมาก กับความไม่ชอบมาพากล แต่เราก็ยังไม่ฟันธงอะไร และตรวจเช็คข้อมูลและคลิปต่างๆว่าถูกต้องหรือไม่ ยืนยันว่าหลักกฎหมายพร้อม หลักฐานพร้อมที่จะสู้ เมื่อเข้าสู่กระบวนการ ส่วนกกต.จะเอาคลิปมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคดี ด้วยนั้น เห็นจากข่าว นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. บอกเพียงว่า อาจจะนำเข้ามาประกอบการพิจารณา

ถามว่ามีการตั้งข้อสังเกต กรณีของนายธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก่อนการแจ้งข้อหาตามมาตรา151 แต่ของนายพิธาได้มีการตั้งกระบวนการสอบก่อนที่จะส่งศาลวินิจฉัย ทำให้มองว่า ศาลอาจสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่จะมีการหมดนายกรัฐมนตรีนั้น นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นประเด็น เชื่อว่า การให้ข่าวของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี น่าจะคลาดเคลื่อน เพราะเมื่อปี 2562 จำได้ว่า แม้นายธนาธร จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังสามารถเสนอชื่อเลือกนายกได้อยู่ดี จึงมองว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการพิจารณา มาตรา151 ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 
 

พิธา อัด ขบวนการสร้างหลักฐานใหม่ สกัด นั่งนายกรัฐมนตรี

ถามว่าคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี กับ บันทึกการประชุมที่ไม่ตรงกันอาจจะมีน้ำหนักไม่มากพอ ที่จะมาใช้ตามกฎหมาย หรือลบล้างข้อกล่าวหาการถือหุ้นของนายพิธาได้ นายพิธากล่าวว่า จะต่อสู้ในทุกรายละเอียด ทุกกระบวนความ และส่วนตัวเชื่อว่า สังคมน่าจะเทียบคดีย้อนหลังดูได้ว่า ศาลตัดสินออกมาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นศาลฎีกา ศาลอาญา ศาลรัฐธรรมนูญ​ ตัดสินด้วยบรรทัดฐานแบบไหน ก็จะต่อสู้ในแนวทางแบบนั้น

" มั่นใจในพยานหลักฐานและหลักกฎหมาย โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นความไม่ชอบมาพากล ความพิรุธในความพยายามสร้างหลักฐานขึ้นมาใหม่ ยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะต่อสู้คดีได้ ทุกรูปแบบ"นายพิธากล่าว

ส่วนงบการเงินที่มีการยื่นให้กับกรมพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นรายได้ที่มาจากสื่อ จะทำให้เพลี่ยงพล้ำหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า​ ไม่ แต่ขอรับไปตรวจสอบดู ตามกฎหมาย ขอให้เป็นเรื่องของคณะทำงานด้านกฎหมาย 

สำหรับในที่ประชุมกรรมาธิการของวุฒิสภา มีการพูดถึงมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ หากมีการรับรอง ส.ส.แล้ว จะมีการเปิดช่องให้ ส.ส.หรือ สว. เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกแต่ละสภา เพื่อส่งให้ประธานของสภานั้นๆส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ นายพิธา กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราคิดไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น ที่คิดไว้อยู่ว่าจะเป็นการสกัดกั้น ไม่ให้ตนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะสกัดกั้นอย่างไร ก็ไม่ทำให้การเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหมดไป 

นายพิธากล่าวว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหลังจากการพ้นตำแหน่ง ส.ส. ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารและข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เพื่อให้รอบคอบที่สุด ก่อนที่จะยื่น ให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ภายในวันที่ 18 มิ.ย.ตามระเบียบของ ป.ป.ช.