'นิวัติไชย'สอบปม'พิธา'ถือหุ้นiTVยื่นในฐานะเจ้าของหรือผู้จัดการมรดก

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ค้ำประกันการกู้ยืมเงินภายในบริษัทของธุรกิจในครอบครัว กว่า 117 ล้านบาท ได้มียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนนี้มาหรือไม่ว่า มี 1 รายการเป็นเรื่องของการค้ำประกันเงินกู้ได้ยื่นเข้ามาแต่จำยอดไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ขอเวลาไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นตัวเดียวกันหรือไม่ 

ทั้งนี้ หากมีการค้ำประกันเงินกู้แล้วไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินจะมีผลทางกฎหมายหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า การค้ำประกันไม่ถือเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงสิทธิที่ลูกหนี้หากผิดนัดเจ้าหนี้ก็จะไปเรียกร้องกับผู้ค้ำประกัน กรณีนี้ต้องพิจารณาว่าการค้ำประกัน เป็นประเด็นที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ ซึ่งกรณีการค้ำประกันที่ยื่นเข้ามานี้อาจจะเป็นกรณียื่นเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งแต่ต้องขอเวลาไปตรวจสอบอีกครั้ง 

ส่วนจะต้องเชิญนายพิธามาชี้แจงหรือไม่นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นเรื่อง การตรวจสอบบัญชีตามปกติที่ยื่นเข้ามา ซึ่งป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบอยู่แล้ว ปกติว่าบัญชีที่ยื่นเข้ามามีความผิดปกติหรือไม่ เป็นการค้ำประกันหนี้ให้กับใครมูลค่าเท่าไหร่และจำเป็นต้องยื่นรายการนี้ให้กับป.ป.ช.หรือไม่ เพราะการค้ำประกันไม่ได้มีสภาพความเป็นหนี้ และที่สำคัญขณะนี้ยังไม่เห็นคำร้องที่ยื่นมาให้ตรวจสอบ บัญชีทรัพย์สินหนี้สินของนายพิธา

นายนายนิวัติไชย กล่าวถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สิน กรณีการถือหุ้นบริษัทไอทีวีจำกัด(มหาชน) ยื่นมาในฐานะผู้จัดการมรดกหรือเจ้าของหุ้นว่า ยื่นมาในชื่อของนายพิธาระบุจำนวนหุ้นประมาณ 42,000 หุ้น แต่ไม่ทราบว่ายื่นมาในฐานะอะไร ต้องรอการตรวจสอบว่าหุ้นที่ยื่นมาเป็นหุ้นสื่อมวลชนหรือไม่ ส่วนเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามไม่ใช่หน้าที่ของป.ป.ช.ซึ่งมีหน้าที่อย่างเดียวคือการตรวจสอบความถูกต้องการมีอยู่จริงของทรัพย์สิน 

"เมื่อมีอยู่แล้วยื่นไม่ได้ปกปิดก็โอเค แต่ถ้าเขาไม่ยื่นทั้งที่เป็นของเขาอันนี้จะเข้าข่ายจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ส่วนทรัพย์สิน จะส่งผลให้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ป.ป.ช. แต่อาจจะประสาน มายังกกต. ได้ หรือกกต.สามารถขอข้อมูลมาเป็นหลักฐาน ประกอบการพิจารณาได้"นายนายนิวัติไชย กล่าว

ส่วนรายละเอียดที่แจ้งต่อป.ป.ช.ต้องระบุประเภทกิจการของหุ้นที่ถือหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เอกสารที่ยื่นมาเป็นใบหุ้น ซึ่งระบุประเภทกิจการอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจเรื่องของวัตถุประสงค์ ของบริษัทที่ถือหุ้นว่าได้ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งกกต.สามารถขอเอกสารมาเป็นหลักฐานในการพิจาณาได้ 

ส่วนที่นายพิธาไม่ได้ยื่นหุ้นiTV ตอนเข้ารับตำแหน่ง นายนายนิวัติไชย ยืนยันว่านายพิธาได้ยื่นเพิ่มเติมเข้ามาภายหลังรับตำแหน่ง ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงว่ามีเจตนาอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ว่าการไม่ยื่นมาช่วงรับตำแหน่งมีความผิดหรือไม่ แต่กรณีพ้นจากส.ส.ล่าสุดเข้าใจว่าได้ยื่นแล้ว และยืนยันว่า กรณีที่นายพิธายื่นเพิ่มเติมเข้ามาไม่ได้พึ่งมายื่นในช่วงที่มีประเด็น 

ส่วนการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน นายพิธากรณีพ้นจากตำแหน่งสสเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ของส.ส.ที่พ้นจากตำแหน่ง แล้ว คาดว่าจะมีการเปิดเผยเร็วๆนี้ 

สำหรับกรณีที่นายพิธา มีนโยบายที่จะปฏิรูปองค์กรอิสระที่ไม่อิสระจริง นายนิวัติไชย ว่า เรื่องนี้เป็นของสภา ที่จะปรับปรุงคุณสมบัติและการสรรหา และพิจารณาแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอย่างไร รวมถึงจะแก้ไขอำนาจหน้าที่ขององค์กรอย่างไร สำหรับที่ผ่านมาองค์กรอิสระมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าถูกครอบงำแล้วแต่มุมมองของแต่ละบุคคล ต้องดูเรื่องผลงานว่าแต่ละองค์กรมีการทำงานอย่างไร