posttoday

ทักษิณคิด พจมานเบรก กับปัจจัยวัดใจ กลับไทย กรกฎาคม

08 มิถุนายน 2566

ทักษิณ ชินวัตร ขอกลับบ้าน กลับประเทศไทย เดือนกรกฎาคม2566 และครั้งนี้ดูเหมือนจะ มุ่งมั่น ตั้งใจเป็นพิเศษ กระทั่ง พจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา มองจากปัจจัยรอบด้าน ออกมาแตะเบรก สะท้อนมุมมองผ่านลูกๆ อาจเป็นอีกจุดวัดใจครั้งสำคัญ ทักษิณ เดินหน้าต่อหรือทอดเวลาออกไปก่อน

นับตั้งแต่ต้นปี มาถึงกลางปี2566 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณ 'กลับบ้าน-กลับไทย' บ่อยครั้ง ผ่านการให้สัมภาษณ์ผ่าน คนคุ้นเคย การออกมาโพสต์เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ การพูดคุยกับคนใกล้ชิด ที่เดินทางไปพบปะในต่างแดน

 
จากที่ประเมิน ทักษิณ อยากกลับบ้าน กลับประเทศไทย คงเป็นเหมือนทุกครั้ง หลังโดนรัฐประหาร 19ก.ย.2549 อารมณ์คนอยู่ต่างประเทศเกือบจะ20ปี ย่อมมีอารมณ์ คิดถึง บรรยากาศเก่าๆ อาหารการกิน ผู้คน ที่ใดก็ไม่สุขใจเท่า ประเทศไทย 

 

ยิ่งในวันนี้ แปรสภาพกลายเป็น คุณตา คุณปู่ หลาน 7 คน จากลูกชาย ลูกสาวทั้ง3คน ในวัยของเด็กๆแต่ละคน กำลังน่ารัก สดใส เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นอีกแรงผลักดัน อยากจะกลับมาเมืองไทยโดยเร็ว ถึงขนาด ถ้าต้องติดคุก(บ้าง) ก็ยอม

 

"กำหนดการกลับประเทศ เบื้องต้นคิดว่ายังเป็นเดือนกรกฎาคมตามเดิม แต่ต้องดูสถานการณ์การเมือง เหตุการณ์ประเทศประกอบด้วย เพราะการกลับมาของนายทักษิณนั้นสำคัญ อยากให้กลับมาในช่วงเวลาที่ดี ไม่มีความขัดแย้ง

โดยจะเน้นดูที่ความเหมาะสมมากกว่า การกลับมา ไม่ว่าจะอยู่ในรัฐบาลรักษาการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือรัฐบาลไหน ก็ไม่มีปัญหา เพราะจะกลับมาเข้ากระบวนการเข้ายุติธรรมอยู่แล้ว” 7มิ.ย. อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การเตรียมความพร้อมของคุณพ่อ ที่จะเดินทางกลับไทย

 

คล้อยหลังไม่นาน มีกระแสข่าว
 

คนในครอบครัวชินวัตรไม่เห็นด้วยที่จะให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ในสถานการณ์ขณะนี้ เนื่องจากยังไม่พร้อม อยากให้รออีก 5 ปี และไม่ใช่เรื่องง่ายกับสถานการณ์เมืองในปัจจุบัน เพราะอายุแค่เพียง 37 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังมีแคนดิเดตนายกฯคนอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน มีความเชี่ยวชาญในเรื่องทางเศรษฐกิจ รวมถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 

การเดินทางกลับประเทศของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ทางครอบครัวชินวัตร อยากให้ทอดเวลาออกไปก่อน แต่ตัวของนายทักษิณเองอยากเดินทางกลับมาเลย ทางครอบครัวยังไม่มั่นใจว่า จะถูกหลอกหรือไม่ และใจจริง ก็อยากให้กลับมาหลังตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว หรือมีรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว

อิ๊งค์ยังอายุน้อย ประสบการณ์ก็น้อย แต่การที่เข้ามาทำงานการเมืองก็เพื่ออยากทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็ง ส่วนทิศทางการเมืองของอิ๊งค์ ให้เป็นไปตามสเต็ป ขณะเดียวกัน อิ๊งค์ก็บอกพ่อว่าเที่ยวบินตัวเองยังไม่ได้ ซึ่งพ่อเค้าก็เข้าใจ”

มุมมองจาก อ้อ-คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่ร่วมแลกเปลี่ยน ความเห็นขณะรับประทานอาหารร่วมกับ ลูกสาว ลูกเขย ในครอบครัวชินวัตร ทำให้ต้องถอดรหัส แกะคำพูดทีละประโยค
 
ตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเข้าสู่ถนนการเมือง เข้ามามีอำนาจ เป็นนายกรัฐมนตรี2สมัย พรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ กระทั่ง ทักษิณ หมดอำนาจ คุณหญิงพจมาน ถือว่า มีบทบาทอย่างสูงในแทบทุกเรื่อง เป็นผู้หญิงทรงอิทธิพล มากบารมี และ Connection แทบทุกวงการ ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ไม่ค่อยออกงานสังคม แต่ในยามมีเรื่อง 'คอขาด บาดตาย ในครอบครัวชินวัตร' มักปรากฎชื่อ พจมาน เข้าไปประสานงาน เจรจา แทบทุกครั้ง 

ในเรื่องภายในครอบครัว หากคุณหญิงพจมาน พูดหรือสะท้อนอะไรออกมา คนในครอบครัวให้ความยำเกรง ต้องเงี่ยหูฟัง ทันที คนที่รู้ดีที่สุดคือ คนในบ้าน เรื่องราวบางมุม เคยถูกสะท้อน ผ่านการบอกเล่าของลูกๆ ผ่านหนังสืออย่างน้อย 2 เล่ม ‘คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียกพ่อ’ กับ ‘Thaksin Shinawatra Theory and Thought ’ 

 

สิ่งที่ คุณหญิงพจมาน สะท้อนออกมาผ่านสื่อ หากมองใน

มิติการเมือง จากเงื่อนไข ระยะเวลา องค์ประกอบต่างๆ ยังไม่ถึงเวลา แพทองธาร วัยเพียง37ปี กับการก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ที่ต้องแบกรับภาระไม่ใช่เพียงแค่ด้าน การบริหารงาน บริหารประเทศเพียงอย่างเดียว  


แม่ถึงลูก เต็มไปด้วย ความเป็นห่วง กังวล ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย คนใกล้ตัว ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร


ความคาดหวังตามกระแสสังคมส่วนใหญ่ พรรคอันดับหนึ่ง ยังเป็น พรรคก้าวไกล การจะไปแย่งชิง คงไม่เหมาะสมทั้ง มารยาทการเมือง สังคม ผู้คน กองเชียร์ ผู้สนับสนุน อาจเบนเป้าหันมาโจมตี

 

ในมุม ทักษิณ ชินวัตร ว่ากันว่า การจะเดินทางกลับประเทศในห้วงเวลานี้ เป็นผลดีที่สุด วันข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลเพื่อไทย ก้าวไกล หรือ ขั้วอำนาจเดิม ก็ตามแต่ ได้จัดตั้งรัฐบาลจริงๆ หากมัวรอแต่ ความมั่นใจรอบด้านเพียบพร้อม ไม่รู้จะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่

ความมุ่งมั่นครั้งนี้จึงสูงกว่าครั้งก่อน และปักธงชัด ต้องกลับให้ได้ ประกอบกับ เจ้าตัวกับลูกสาว เน้นย้ำ การกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่ การกลับมาเท่ห์ๆ หรือ ใช้ช่องทางพิเศษ แต่ ‘พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม’ 


เมื่อไปดู กฎหมาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ที่ออกมาจาก กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับ การควบคุมผู้ต้องขัง สถานที่  ตามด้วยเงื่อนไข อายุ กระบวนการต่างๆ หากลองคำนวน โทษทัณฑ์ที่ต้องได้รับ กับการร้องขอ ตามกฎเกณฑ์ เงื่อนไข หากนับระยะเวลาที่ต้อง ถูกจองจำจริงๆ อาจกินเวลาไม่นานเกินไปนัก

 

ในมุมลูกๆ แน่นอน ถึงเวลาแล้ว บุตรทั้ง3คน ล้วนอยากให้ บิดา กลับมาเมืองไทย ได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ปล่อยวางการเมือง ใช้เวลาสอนหลานๆ ถ่ายทอดประสบการณ์ต่างแดน เรื่องราวทางเทคโนโลยี นวัตกรรม การพบปะผู้คน  ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผ่าน เจเนอเรชั่น สู่อีก เจเนอเรชั่น

 

เงื่อนไขการเดินทางกลับบ้าน กลับประเทศไทยของ ทักษิณ ไม่ได้ใช้แค่ ความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่างเดียว ยังมีเงื่อนไข ปัจจัยอื่นประกอบ ตามบริบทการเมืองไทยอันสลับซับซ้อน อย่างน้อย คุณหญิงพจมาน ได้สัมผัสมา เมื่อนำข้อมูล ปัจจัยรอบด้าน 'แตะเบรก ขอให้ทอดเวลาออกไปก่อน' อาจทำให้ 'ทักษิณต้องคิดใหม่ ทำใหม่' อีกรอบ..ก็เป็นได้