posttoday

ชนินทร์ เปิดข้อมูลจริงหนี้ครัวเรือนไทยสูงมาตั้งแต่หลังรัฐประหารปี58

02 มิถุนายน 2566

ชนินทร์ รองโฆษกเพื่อไทย เปิดข้อมูลจริงหนี้ครัวเรือน สูงเกิน 80% ครั้งแรกปี58หลังรัฐประหาร จนต้องมีโครงการคลีนิกแก้หนี้ปี60 และกลับสูงขึ้นถึง90.1% เป็นประวัติการณ์เมื่อปี64 ขณะปัจจุบันหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพียังอยู่ที่ 86.8%

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเกินกว่า 80% มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ถือเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากการบริหารราชการในสมัยนั้น แม้จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่ยังยึดมั่นในการควบคุมสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้ไม่เกิน 80% ซึ่งเป็นระดับยั่งยืนตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทยมาตลอด ข้อเท็จจริงคือ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงกว่า 80% ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2558 ภายหลังมีการทำรัฐประหาร และส่งผลต่อการส่งออกที่หดตัวลง สถานการณ์หนี้ย่ำแย่จนต้องมีโครงการคลีนิกแก้หนี้ในปี 2560 ซึ่งสถานการณ์ควรดีขึ้น แต่ด้วยการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี กลับเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 90.1% ในปี 2564 และยังไม่สามารถแก้หนี้ให้ประชาชนได้จนปัจจุบันโดยในปี 2565 หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพียังอยู่ที่ 86.8% ซึ่งเป็นระดับที่ยังต้องเฝ้าระวัง  

นายชนินทร์ กล่าวว่า การที่นายสุพัฒนพงษ์ฝากให้รัฐบาลใหม่มาแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อนั้น พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนสูงเกิดจากสาเหตุหลักคือประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่เพิ่มสูงขึ้น  พรรคเพื่อไทยมุ่งเน้นนโยบายที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจ การขยายตัวด้านการส่งออกจากการเปิดตลาดใหม่ๆ ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ  ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หาโอกาสจากวิกฤตทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้ภาคการเกษตรให้เพื่มขึ้น และขยายฐานรายได้ให้พี่น้องประชาชน ด้วยกลไกเหล่านี้จะเป็นทางออกให้คนไทยมีรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืน และมีกำลังเพียงพอจะจ่ายหนี้เก่า เพื่อปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้กลับมาอยู่ในระดับยั่งยืนที่ต่ำกว่า 80% ตามเดิม

“พรรคเพื่อไทยมีความเชื่อมั่นและความพร้อมในการเดินหน้าแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยทันที สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยซบเซามามากในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่จะเข้ามาเริ่มแก้ปัญหาที่ซุกไว้มานาน ฟื้นชีพประชาชนให้เร็วที่สุด” นายชนินทร์กล่าว