ตั้งรัฐบาล66:ชลน่าน ชี้ ประธานสภาฯ รีบคุยให้จบดีที่สุด

วันที่29พ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลว่า พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติชัดเจนว่า ยอมรับความต้องการประชาชน 25 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคก้าวไกลมา 14.2 ล้านเสียง พรรคเพื่อไทย 10.8 ล้านเสียง อยากให้มีรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ เรายึดถือเจตจำนงค์นี้เป็นหลัก

มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกลได้เป็นอย่างดี ส่วนที่เสนอว่า หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้พรรคอันดับสองเป็นผู้รวมเสียงข้างมากนั้น เรายังคงมีเจตจำนงค์ทำตามแนวทางที่หนึ่งให้สำเร็จให้ได้ ประเด็นนี้เจึงขอรับฟังไว้ ขณะนี้มุ่งมั่นตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลให้จงได้ 

กรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยมีดีลลับกับพรรคต่างๆ พรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธ หลังจากเลือกตั้ง พรรคไม่มีดีลลับกับใคร มีแต่ดีลจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมลงนามในเอ็มโอยูเท่านั้น อยากให้ไปถามคนที่เสนอข่าวออกมา หากเป็นดีลลับทำไมถึงมีคนรู้แล้วออกมาปล่อยข่าวก็อยากให้ไปถามคนนั้น การปรากฎภาพแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่ร่วมเฟรมกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล แล้วนำไปโยงกับดีลลับนั้น นายเศรษฐา ทวิตข้อความออกมาชัดเจน นายเศรษฐาเป็นคนตรงไปตรงมา เขาเตรียมตัวเป็นเดือน การดูฟุตบอลเป็นสิทธิเสรีภาพ ยืนยันไม่มีดีลลับ 

เมื่อถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผย ดีลลับลังกาวี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวน่าจะไปถามนายชูวิทย์ ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่รู้ไม่เห็นจริงๆเรื่องพวกนี้ ในนามของพรรคไม่มี 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้ประเมินหรือไม่กับการเปิดเผยข้อมูลต่างๆออกมาในช่วงนี้ นพ.ชลน่านกล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีการเปิดเผยข้อมูลหลากหลาย จะมีข้อเท็จจริงหรือไม่ต้องดูกันอีกที ในนามพรรคเพื่อไทยที่ถูกอ้างถึงโดยตรง สิ่งที่เขาพยายามพูดไม่ใช่ข้อเท็จจริง เราไม่มีพฤติกรรมไปทำเช่นนั้นแน่นอน

หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลคือ จะทำอย่างไรให้บรรลุเจตจำนงค์ของประชาชนให้มีรัฐบาลประชาธิปไตยเกิดขึ้น ข้อกังวลต่างๆตามข่าวที่ออกมาไม่สามารถลบเจตจำนงค์ของประชาชนได้ ที่มีกระแสข่าวต่างๆออกมา ถือเป็นมิติทางการเมือง ตนเป็นหัวหน้าพรรคมองเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเกิดก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือแม้เป็นรัฐบาลไปแล้วก็จะมีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ

เมื่อถามว่าวันที่30 พ.ค.จะคุยกันเรื่องตำแหน่งต่างๆในการคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้เสนอมาคือ ระบุถึงเรื่องทิศทางการทำงานร่วมกันที่จะจัดตั้งรัฐบาล และเตรียมตัวเป็นรัฐบาลในช่วงเปลี่ยผ่านว่ามีการทำงานรูปแบบไหน มีคณะกรรมการร่วมกันที่จะทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดเดิมกรณีที่ได้รับตำแหน่งหน้าที่แล้ว ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องหลัก

สำหรับเรื่องตำแหน่ง ไม่ควรคุยกันในเวที 8 พรรค การเจรจาการทำงานร่วมกันมีกรอบแล้วว่าทำอย่างไร ทางพรรคแกนนำควรไปคุยกับพรรคร่วมต่างๆให้ได้ข้อสรุป แล้วจึงค่อยนำขึ้นมาพูดคุยกันบนเวที 8 พรรค เรื่องตำแหน่งต่างๆ อีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่คุยกันอย่างเป็นทางการ ในภาวะที่สังคมกำลังรอฟังอย่างนี้ ถ้าแปลงข้อเท็จจริงไปเป็นในมุมลบ ก็จะลบไป เราพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนกังวล อะไรที่เราคุยกันได้ มันจบแล้วเอามานำเสนอเป็นที่ยุติ น่าจะดีที่สุด ไม่ควรคุยกันบนโต๊ะที่ยังไม่จบ ประสบการณ์เรามีมาแล้ว 3-4 วันที่ผ่านมาทำให้ประชาชนกังวลมาก

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ได้หารือเรื่องประธานสภาฯแล้วหรือยัง นพ.ชลน่านกล่าวว่า คณะทำงาน 2 พรรคกำลังประสานอยู่ รวมถึงตำแหน่งอื่นๆเช่นกันว่า มีความคิดเห็นอย่างไร เป็นไปตามที่คุยหรือไม่ มีข้อเสนออย่างไร รับได้ไม่ได้อย่างไร หลังจากนั้นจะเอามาพูดคุยกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจ

"เรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร รีบคุย รีบจบมีคำตอบ จะดีที่สุด ทีมเจรจากำลังพยายามกันอยู่ และมั่นใจว่าไม่บานปลายจนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้"นพ.ชลน่านกล่าว