posttoday

ตั้งรัฐบาล66:เรืองไกร จี้กกต.เร่งสรุป พิธา ถือหุ้นไอทีวี ขัดรธน.หรือไม่

23 พฤษภาคม 2566

เรืองไกร ยื่นเอกสารเพิ่มเติม ประธานกกต. 24พ.ค. ขอให้ตรวจสอบ พิธา ถือหุ้นไอทีวี 42000 หุ้น จนถึงปัจจุบัน แนบเอกสารข้อมูล ไอทีวี มีรายได้ตามงบกำไรขาดทุน มาโดยตลอด ไล่จี้ กกต.เร่งสรุป ยื่นศาล พิจารณา พิธา เข้าข่ายขัด รัฐธรรมนูญมาตรา98 มีลักษณะต้องห้ามลงรับสมัครส.ส. หรือไม่

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แจ้งกับสื่อมวลชนว่า ในวันที่ 24พ.ค. เวลาประมาณ10.00น. จะเดินทางไปยื่นเอกสาร กรณีการถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) ต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีเนื้อหาความยาวกว่า 28 หน้ากระดาษ

โดยมีสิ่งที่ส่งมาด้วย 1.ตารางชื่อ พงษ์ศักดิ์ กับ พิธา ถือหุ้น ITV ปี 2549 ถึง 2566

 2.สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น บมจ.ไอทีวี ปี 2549 ถึง 2566 (บางส่วน)

3. สำเนาวัตถุประสงค์ของ บมจ.ไอทีวี

4. ตารางรายได้รวมของ บมจ.ไอทีวี ปี 2564 ถึงปี 2565

5. สำเนารายได้รวมของ บมจ.ไอทีวี ปี 2564 ถึงปี 2565 (ขาดปี 55)

6. สำเนาพระราชบัญญัติบริษัทจำกัดมหาชน(บางส่วน)

 

 ขอให้กกต. ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ในขณะที่สมัครับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและยินยอมให้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จะเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

เนื้อหาส่วนสำคัญในเอกสารบางตอนระบุว่า ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ปี 2549 มีชื่อนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นจำนวน 12,000 หุ้น ปี 2550 มีชื่อนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นจำนวน 42,000 หุ้น ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2566 มีชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นจำนวน 42,000 หุ้น มาโดยตลอด

บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวมตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2565มาโดยตลอด (ขาดข้อมูลปี 2555) จากข้อเท็จจริง จะเห็นได้ว่านายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น มาตั้งแต่บี 2551 จนถึง ณ วันที่26 เมษายน 2566 และบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับสื่อมวลชนใดๆ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และมีรายได้ตามงบกำไรขาดทุนมาทุกปี

การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ดังกล่าวอยู่ในขณะที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยินยอมให้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จึงอาจเข้าข่ายที่ต้องส่งให้ศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยต่อไปว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีลักษณะต้องห้ามตามความในรัฐธรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

จึงเรียนมาเพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ในขณะที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยินยอมให้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จะเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามความในรัฐธรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

และขอให้ กกต.ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีลักษณะต้องห้ามในการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐมนตรี ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ประกอบมาตรา 160 หรือไม่


ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา98 บัญญัติว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 
(3)เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ

 

ตั้งรัฐบาล66:เรืองไกร จี้กกต.เร่งสรุป พิธา ถือหุ้นไอทีวี ขัดรธน.หรือไม่

 

ตั้งรัฐบาล66:เรืองไกร จี้กกต.เร่งสรุป พิธา ถือหุ้นไอทีวี ขัดรธน.หรือไม่

 

ตั้งรัฐบาล66:เรืองไกร จี้กกต.เร่งสรุป พิธา ถือหุ้นไอทีวี ขัดรธน.หรือไม่