posttoday

ตั้งรัฐบาล66:กลเกม เหลี่ยมคม เกม(ชิง)จัดตั้งรัฐบาล

20 พฤษภาคม 2566

พรรคก้าวไกล รวมเสียงข้างมาก จัดตั้งรัฐบาล ภายนอกดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่เนื้อใน ยังมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ขณะที่ การรวบรวมเสียง สว.อย่างน้อย63เสียง มาเติมเต็ม เพื่อสานฝัน พิธา เป็นนายกฯ ภายใต้รัฐบาลก้าวไกล ยังเป็นเรื่องต้องเฝ้าติดกันกันช็อตต่อช็อต นาทีต่อนาที

จบศึกเลือกตั้ง 14พ.ค. พรรคก้าวไกล ได้เสียงข้างมาก หากเป็นวาระปกติ พรรคก้าวไกล เดินเกม รวมเสียง พรรคการเมืองร่วมอุดมการณ์ ได้เสียงเกินครึ่ง ได้จำนวนเสียงมากเพียงพอ จัดตั้งรัฐบาล เสียงข้างมาก ในขั้นตอนนี้ ไม่มีปัญหา

แต่การเมือง ที่ว่าด้วย อำนาจ ผลประโยชน์ พวกพ้อง ไม่มีอะไรง่ายขนาดนั้น พรรคก้าวไกลพยายาม รวบหัวรวบหาง พรรคร่วมอุดมการณ์ ผ่านการลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น หรือ MOU ในวันครบ9ปี รัฐประหาร 22พ.ค. เวลา16.30น. 


พรรคก้าวไกล ป่าวกระกาศ ทุกพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มาจากประชาชน 
ทว่า ยังมีอีกด่าน อุปสรรคสำคัญ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) 250คน คอยขวางกั้น 

หาก พรรคก้าวไกล พรรคพันธมิตรการเมืองร่วมอุดมการณ์ ต้องการชนะอย่างเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ต้องหาให้ได้ทั้งหมด 376 เสียงเป็นอย่างน้อย  โหวตเอาชนะ สว.ในการพา ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่30 อย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ข้อกังวล

376 – 313 = 63 เสียง เป็นอีกโจทย์ยากทางการเมือง 


ดูจาก สมการตัวเลข และ ความสลับซับซ้อนทางการเมือง ต้องบอกว่า งานนี้ ก้าวไกล ไม่ง่าย ที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองพยายามให้ ก้าวไกล แจกแจงตัวเลข สว. จะมาจากกลุ่มไหน ใครบ้าง ทว่า ผลที่ได้ ดูเหมือน ก้าวไกล ยังให้คำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ว่า 63 เสียง มาจากขั้วไหน เป็นใครบ้าง


ในวันนี้ ยิ่งเพิ่มความสลับซับซ้อน คลุมเครือ ไม่แน่นอนไปอีก เมื่อลอง ถอดรหัส โดยยึดสมการตัวเลข 8 พรรค และแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม รวมแล้ว 313 เสียง เพื่อนำไปสู่ เกมแห่งอำนาจ เกมแห่งเสียง ชิง(เหลี่ยม)จัดตั้งรัฐบาล  

- ขั้วพรรคเพื่อไทย 141 ประชาชาติ 9  เพื่อไทรวมพลัง 2  พลังสังคมใหม่  1    รวม  153 เสียง

 
-  ขั้วสงวนท่าที พรรคไทยสร้างไทย 6  เสรีรวมไทย 1     รวม 7 เสียง 

 

-  ขั้วพรรคก้าวไกล 152 เป็นธรรม 1       รวม  153 เสียง 

 

ตั้งรัฐบาล66:กลเกม เหลี่ยมคม เกม(ชิง)จัดตั้งรัฐบาล

 

หากขั้วของ ก้าวไกล เป็นแกนนำ ไปไม่ถึงฝั่งฝัน โดยมี อุปสรรคสำคัญ สว. ที่เป็นเสียงมาเติมเต็ม สำหรับ พิธา ยังได้จำนวนเสียงไม่มากพอ อาจเปิดช่องให้ ความชอบธรรมไหลมาทาง ขั้วเพื่อไทย ในการรวมเสียงใหม่ ในการจัดตั้งรัฐบาล 

ที่ผ่านมา มีการส่งสัญญาณแปลกๆ ออกมาทั้ง สว.บางคน ที่บอกในทำนอง พร้อมโหวตให้ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย มากกว่า พิธา เนื่องจาก ไม่มีความมุ่งหมายในการ แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และยิ่งไปกว่านั้น บางพรรคการเมือง ออกตัว ทำให้น่าขบคิดทางการเมือง

สมบัติ ยะสินธุ์ ว่าที่ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กระแสข่าว เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะพา 16 ว่าที่ส.ส.ของพรรค ไปร่วมรัฐบาลพรรคก้าวไกล
 ‘คงไม่น่าจะร่วมรัฐบาล พรรคก้าวไกลสุดโต่ง แต่ถ้าเกิดพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วกลายเป็นพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายจัดตั้งแทน และไม่มีเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ จะร่วมรัฐบาลด้วย โดยเอานโยบายของเราไปผสมเหมือนกับครั้งที่แล้วที่เราไปร่วมรัฐบาล’

 

ยังไม่นับรวมท่าที แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้า ยืนยันชัดเจน ไม่สนับสนุน พรรคที่มีจุดยืนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112  ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่ปิดประตู แห่งการยอมแพ้ เสียทีเดียว 


ขณะเดียวกัน เริ่มมีเสียง เล็ดลอดออกมาจาก ฝั่งเพื่อไทย ประชาชาติ และบางพรรคการเมือง เริ่มไม่เห็นด้วยกับ เอ็มโอยู ของพรรคก้าวไกล 

ไม่ว่าจะเป็น การคืนความยุติธรรมจากผู้ได้รับผลกระทบจากรัฐประหาร ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองโดยไม่รวมความผิดคดีคอร์รัปชั่น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย ซึ่งพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย มองว่าหากผลักดันเรื่องดังกล่าว จะถูกโยงว่าทำไปเพื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 


ประเด็นการยกเลิกการผูกขาดอุตสาหกรรมผลิตสุรา หรือการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งประเด็นนี้พรรคประชาชาติ ไม่เห็นด้วย เพราะขัดกับหลักศาสนาอิสลาม ที่เป็นฐานเสียงหลักของพรรค


บนความไม่แน่นอนของ พรรคก้าวไกล ในการหาเสียงจาก สว.มาเป็นพวก โหวต พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ยังเป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ สำหรับ พรรคก้าวไกล เลยทำให้มีการคิดไปต่อ หากเกม ก้าวไกล รวมเสียงไม่ได้จะเป็นอย่างไร ปมการถือครองหุ้น ไอทีวี ของ พิธา ยังไม่รู้จะออกมาในแนวทาง ผลเป็นบวก หรือ เป็นลบ

จากเหตุปัจจัยนี้ จะทำให้ เปิดกว้างสำหรับ พรรคเพื่อไทย ในการรวมเสียงใหม่ ในการดึงพรรคการเมืองต่างๆมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่หรือไม่ เพราะในด้าน สมการตัวเลข จากพรรคการเมืองต่างๆ พร้อมเทใจสนับสนุน ประเด็น สว.ดูทอดไมตรีมาทาง เพื่อไทย มากกว่า  ในห้วงเวลา กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง ยังไม่มีการ นัดประชุมเลือก ประธาน-รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังมีเวลาร่วมๆ 45 วัน อาจทำให้ สถานการณ์พลิกผัน อีกครั้ง ใช่ว่าจะ เป็นไปไม่ได้

 

ก้าวไกล มี3 เรื่องลุ้นหนัก ที่ต้องฝ่าฟัน  
1.บทสรุปใน MOU ที่ทุกพรรคร่วมอุดมการณ์ จะจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ต้องเห็นด้วยกันทุกประเด็น
2. เกมชิงเหลี่ยมจัดตั้งรัฐบาล ที่ยังไม่แน่ พรรคก้าวไกล เป็นแกนหลัก จะเดินหน้ารวบรวมเสียงได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ 
3. เสียงจาก สว. อย่างน้อย 63 เสียง ต้องหามาเติม เพื่อพา พิธา เป็นนายกฯ สานฝัน พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำรัฐบาล

 

การเมืองว่าด้วยเรื่อง อำนาจ ผลประโยชน์ พวกพ้อง การหักเหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบ แต่ละเรื่องล้วนเป็นวาระหนักอึ้ง สำหรับ พรรคก้าวไกล ต้องแก้ทีละปม ฝ่าไปทีละด่าน เพื่อสานฝัน พิธา เป็นนายกฯ โดยมี พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำรัฐบาล

ในวันที่เกมการเมืองเริ่มระอุ ขั้วฝ่ายตรงข้าม ยังไม่ยกธงยอมแพ้ ขั้วเดียวกัน จากปฏิกิริยาอะไรหลายอย่าง ไม่มีอะไรการันตรี จะจูงมือกันไปตลอดรอดฝั่ง หรือไม่