posttoday

"พิพัฒน์"ดัน Soft Powerไทย กวาดรายได้25%ของGDPประเทศปี66-67

14 มีนาคม 2566

รมว.ท่องเที่ยว พิพัฒน์ รัชกิจประการ ร่วมเวที เครือเนชั่น ดัน ภาครัฐเพิ่มงบลงทุน Soft Power ขับเคลื่อนประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตั้งเป้า 25% ของ GDP ประเทศปี 66-67

เครือเนชั่น เปิดเวที "อนาคตประเทศไทย Soft Power ขับเคลื่อนประเทศ" ที่  โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ รางน้ำ โดยเชิญตัวแทน 6 พรรคการเมือง ร่วมเปิดนโยบายพรรคการเมืองไทย ผลักดัน Soft power สู่ระดับโลก  ประกอบด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา , น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการ พรรคไทยสร้างไทย , น.ส. จิราพร สินธุไพร ส.ส. จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (พี่ต๋อม)  , น.ส. วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงนโยบายด้าน soft power ว่า หลายคนอาจจะมอง Soft power ในหลายมิติ โดยมิติของการท่องเที่ยวจะต้องเป็น soft power ที่ทรงพลัง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังมี soft power ที่ยังไม่ที่ยังพลัง เช่น โนราห์ เครื่องเบญจรงค์ โขน ฯลฯ เหล่านี้ต้องสร้างการรับรู้ 

พร้อมยกตัวอย่าง คำว่ากระแสนิยม และ soft power ว่ามีความแตกต่างกัน เช่น ลิซ่า สวมชฎา , มิลลิ หยิบข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นโชว์ ในเวทีต่างประเทศ โดยสิ่งที่ต้องทำ คือ เราจะผลักดันอย่างไรให้กระแสเหล่านี้เกิดเป็น soft power 

สำหรับสิ่งที่ต้องทำในระยะต่อไป ตามยุทธศาสตร์การขับเคขื่อนการท่องเที่ยวด้วย Soft power จะต้องคัดเลือก พัฒนา ต่อยอด สร้างแรงดึงดูดที่เหมาะสม เพื่อให้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยกตัวอย่าง ชาไทย ที่ติดอันดับ 7 ของโลก อาจจะนำมาเป็น welcome drinks ตามโรงแรมต่างๆ หรือ ในการประชุมกับนานาประเทศ ที่อาจจะนำชาไทยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ รวมถึงพัฒนาแปรรูป ให้มีหลากหลายผลิตภัณฑ์จากชาไทย 

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐต้องเอาจริง เอาจังกับเรื่องนี้ ถึงเวลาที่ทุกกระทรวงต้องมีการกำหนดงบประมาณในการผลักดันเรื่อวนี้อย่างแท้จริง  เพื่อผลักดัน soft power ให้เท่าเทียมและทรวคุณค่าเหมือน "มวยไทย" 

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เป็น sotf power ที่แข็งแรงและทรงพลังที่สุดของไทย ก็คือ  "คนไทย" เพราะนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวไทย ล้วนอยากสัมผัส กับความเป็นคนไทย กิริยา มารยาท ความสุภาพ และความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่อง โดยเฉพาะ รอยยิ้มของคนไทย 

ขณะเดียวกัน กระทรวงการท่องเที่ยวมีเป้าหมาย ยกระดับความปลอดภัย พัฒนาเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง ปั้น soft power มองประสบการณ์ที่มีความหมายของนักท่องเที่ยว โดยกระทรวงการท่องเที่ยว ตั้งเป้าว่า ในปี 2566-2567 หวังว่า จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว ถึง 25% ของ GDP ของประเทศ