posttoday

'อ๋อม สกาวใจ' เปิดใจลงสมัครส.ส.เหตุคอลเอาท์ไม่สำเร็จ

06 กุมภาพันธ์ 2566

“อ๋อม สกาวใจ” เปิดใจลงเล่นการเมือง เหตุคอลเอาท์ไม่ช่วยแก้ปัญหาเลือกเพื่อไทยเพราะเป็นพรรคประชาธิปไตย เชื่อมีผลงานทำได้จริง มั่นใจคว้าชัยชนะเขตสะพานสูง กทม.

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคตะวันออก และ กทม.ดังนี้ 

ภาคตะวันออก 2 คน ได้แก่ 
- จันทบุรี
1. นายวันทิตย์ ตั้งรักษาสัตย์ 
2. นายนิติรุจน์ ศิระวิเชษฐ์กุล

กทม.3 คน ได้แก่
1.นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์ กทม. เขตสะพานสูง ประเวศ 
2.นายเอกภาพ หงสกุล กทม. เขตสายไหม 
3.นางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกระดี่ กทม. เขตบางขุนเทียน 
 

นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสะพานสูง ประเวศ พรรคเพื่อไทย เปิดใจถึงการลงเล่นการเมืองครั้งแรกว่า มีชื่อเสียงในนาม “อ๋อม สกาวใจ” มาได้ เพราะประชาชนให้การสนับสนุนมากกว่า 30 ปี ที่ผ่านมาส่วนตัวก็ออกมาคอลเอาท์ รัฐบาลตลอด แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ จึงตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมืองโดยลงสมัคร ส.ส.เพื่อผลักดันนโยบายไปแก้ไขสภาฯ ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน และถือเป็นการตอบแทนบุญคุณประชาชน ที่ให้การสนับสนุนมาตลอด 

ส่วนเหตุผลที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย นางสาวสกาวใจ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตย และแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่อง พรรคเพื่อไทยยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก เป็นองค์กรการเมืองที่เข้าถึงประชาชน ซึ่งได้ติดตามผลงานมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทยจนถึงปัจจุบันเป็นพรรคเพื่อไทย และยังเป็นพรรคเดียวที่คิดนโยบายแล้วทำได้จริง 

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแปลกมาก เพราะว่าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล ประเทศคงไม่เป็นเหมือนในปัจจุบัน ไม่ทำให้ประเทศย่ำอยู่ที่เดิมมา 8 ปี แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เศรษฐกิจย่ำแย่ ค่าแรงเท่าเดิม นักศึกษาไม่มีอนาคต และผู้ใหญ่ไม่ฟังเด็ก 

 

ส่วนการตัดสินใจทำงานการเมือง หากจะกลับไปวงการบันเทิง จะเสียโอกาสหรือไม่ ว่า ตลอดชีวิตในวงการบันเทิง 30 ปี ไม่เคยทิ้งวงการบันเทิง หากงานไหนรับได้ก็จะรับ แต่วันนี้หากปล่อยให้ประเทศเป็นแบบนี้ต่อไป มองว่าเสียโอกาสมากกว่า เราต้องให้คนอื่นมาเลือกนายกรัฐมนตรีให้ มันก็จะทำให้ประชาธิปไตยบ้านเราไม่เต็มใบสักที จึงเชื่อว่าหากตนเข้ามาผลักดันเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้เป็นประชาธิปไตยแบบเต็มใบได้ มันจะคุ้มค่าที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง และอีกมุมหนึ่งการเข้ามาทำงานการเมือง ก็ถือว่าทำเพื่อตัวเองเหมือนกัน 

"ตราบใดที่รถถังยังมาเพ่นพ่านอยู่แบบนี้ ไม่มีทางที่ประเทศ จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เชื่อว่าการตัดสินใจของตัวเองครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดและคุ้มที่จะทำแบบนี้ เพื่อประชาชน" 

ส่วนการทำพื้นที่ในเขตสะพานสูง นางสาว กล่าวว่า ใช้ชีวิตในพื้นที่นี้มาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวก็อยู่ที่นี่ และการลงสนามการเมืองครั้งนี้ คำว่าแพ้ไม่มีอยู่ในหัว มาครั้งนี้มาเพื่อชนะ ตนมั่นใจในตัวเองและมั่นใจในพรรคเพื่อไทย 

ด้านนายเอกภาพ หงสกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนตัวก็มั่นใจในพื้นที่ เพราะได้ทำพื้นที่และช่วยเหลือประชาชน เคียงข้างนางปวีณา หงสกุล พี่สาวมาตลอด ประกอบกับคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงเชื่อว่า จะสามารถชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้และยืนยันว่าจะทำเต็มที่

นางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกระดี่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขตบางขุนเทียน มั่นใจว่านโยบายของพรรคจะเป็นหมัดเด็ด ที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งได้