ศุภชัย ร้อง นายก ยุบสภา ชี้ส.ส.-รัฐมนตรีไม่อยากทำหน้าที่
สภาผู้แทนฯ ใช้เวลา 16 นาที ก่อนจะล่มอีกครั้ง ศุภชัย ในฐานะประธานในที่ประชุมลั่น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเรียกร้อง“พล.อ.ประยุทธ์" ถ้าได้ยินก็รีบยุบสภาฯเสีย เพราะ ส.ส.ไม่อยากประชุมแล้ว รัฐมนตรีก็ไม่ยอมมาตอบกระทู้ในสภาฯแล้ว จะอยู่ไปทำไม
รายงานข่าวเปิดเผยว่า วันนี้(2 ก.พ.66) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาภาษีอากร ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี ซึ่งค้างจากการประชุมครั้งที่แล้ว โดยได้มีการแถลงหลักการและเหตุผลและสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นเสร็จแล้ว แต่ในครั้งนั้นองค์ประชุมไม่ครบจึงนำกลับมาลงมติในวันนี้ แต่นับตั้งแต่เปิดเข้าวาระการประชุมในเวลา 13.30 น. ปรากฎว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 190 ไม่ถึงกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมคือ 212 คน ประธานจึงสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 13.46 น. ใช้เวลาไปเพียง 16 นาทีก่อนสภาจะล่มอีกครั้ง
ทั้งนี้ก่อนลงมติได้มีการตรวจสอบองค์ประชุม ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบจำนวน นายศุภชัย ไพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมจึงได้กดออดเรียกสมาชิกเข้ามาในห้องประชุม พร้อมบอกกับสมาชิกว่า แม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯยังมาร่วมเป็นองค์ประชุมด้วย
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอให้ประธานฯสรุปการลงมติโดยไม่ต้องรอ เพราะ ส.ส. ที่มาประชุมก็มาตลอด แต่คนที่มายังไงก็ไม่มา และบอกว่าจะเปิดเผยรายชื่อคนที่ไม่มาก็ยังไม่เห็นมีการเปิดเผย จึงขอเรียกร้องให้แฉไปให้ประชาชนได้เห็นว่า ส.ส. ที่รับปากกับประชาชนไม่มาประชุม ทำให้คนที่มาเสียเวลา ซึ่งบางพรรคก็หายไปทั้งพรรค ดังนั้นไม่ควรรอ เพราะ ส.ส.ที่อยู่จะได้ลงพื้นที่เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า
ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้ทบทวนว่าตั้งแต่เป็น ส.ส.มา ไม่เคยมีบรรยากาศเช่นนี้ ซึ่งบรรยากาศที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีรัฐบาลชุ่ย ๆ เพราะองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านไม่ได้เล่นเกมโดยเฉพาะเรื่องประมงซึ่งเป็นเรื่องถัดไป เพราะเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย ดังนั้นรัฐบาลต้องลงมาควบคุมเสียง
"ส่วนเหตุการณ์ผู้แทนย้ายพรรคและเกิดการลาออก ทศวรรษนี้ถือว่าเยอะที่สุด หนักกว่าตลาดวัวตลาดควายเสียอีก" ครูมานิตย์ กล่าว
นายศุกชัย จึงขอให้ถอดคำพูดที่รุนแรงเกินไป เพราะ ส.ส. มีสิทธิที่จะลาออกจึงไม่ควรเปรียบเทียบ ทำให้นายครูมานิตย์ บอกว่า ยินดีถอนคำพูดแต่ในอดีตไม่เคยเห็นบรรยากาศเหล่านี้ วันนี้ไปกันเยอะทำให้องค์ประชุมน้อยลงตามลำดับ ถ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดหากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ของฝ่ายบริหารไม่ได้ก็ควรยุบสภา ให้ชาวบ้านจัดสรรมาใหม่
จากนั้น นายศุภชัย จึงขอระบายบ้างว่า มาเป็น ส.ส. ในรอบนี้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ในฐานะประธานในที่ประชุมก็ทำอย่างเต็มที่ ลงจากบัลลังก์ก็ทำหน้าที่ ส.ส. ยอมรับว่าเหนื่อยหน่ายเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเรียกร้องเหมือนนายครูมานิตย์เช่นเดียวกัน “พล.อ.ประยุทธ์" ถ้าได้ยินก็รีบยุบสภาฯเสีย เพราะ ส.ส.ไม่อยากประชุมแล้ว รัฐมนตรีก็ไม่ยอมมาตอบกระทู้ในสภาฯแล้ว จะอยู่ไปทำไม ผมก็มีอารมณ์และอยากระบายบ้างเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างรอองค์ประชุม ส.ส. ส่วนใหญ่ ที่ลุกขึ้นหารือกับประธานในที่ประชุมฯเรียกร้องให้ ส.ส. มาร่วมกันเป็นองค์ประชุม เพื่อที่จะได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประมง ซึ่งจะเข้าสู้การพิจารณาในลำดับถัดไป หลังจากรอการพิจารณามาหลายสัปดาห์ ซึ่งชาวประมงกำลังจับตาดูอยู่


