posttoday

พิธา พร้อมเปิดเกมเลือกตั้ง 66 ชู การเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต

15 มกราคม 2566

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พร้อมเปิดเกมศึกเลือกตั้ง 66 เน้นคัดตัวผู้สมัครทีมีทั้งอุดมการณ์และมีประสิทธิภาพ มีเวลาในการเตรียมตัวเกือบ 2 ปีในศึกนี้ พร้อมชูนโยบายหาเสียง การเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต มุ่งสางปัญหาในอดีตของรัฐบาล คสช.

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงความพร้อมในการเลือกตั้งปี 66 ว่า พรรคก้าวไกล จะพิจารณาเน้นในเรื่องว่าที่ผู้สมัคร โดยต้องเป็นคนที่มีอุดมการณ์และประสิทธิภาพไปในตัว หากมีอุดมการณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงจับต้องไม่ได้ หรือการเปลี่ยนแปลงจับต้องได้ แต่ไม่มีอุดมการณ์ ก็จะไม่ส่งลงสมัคร ส่วนนโยบายพรรคสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเน้นเรื่องการเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต โดยจะมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาในอดีตของรัฐบาล คสช.
 

พรรคพยายามเสนอนโยบายที่เป็นชุดคำตอบ ซึ่งความท้าทายประเทศนี้ คือ สังคมสูงวัย ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ปัญหาที่ดิน หาเค้าโครงเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศไทย ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว เศรษฐกิจใหม่ๆของประเทศไทย ที่ไม่ทำให้ GDP อยู่อันดับ 6 ของอาเซียน ก็จะเป็นคำตอบที่พยายามอธิบายให้


 
ทั้งนี้ การทำงานของพรรคก้าวไกล จะเป็นการเมืองมาจากประชาชน สมาชิก ไม่ได้มาจากทุนใหญ่ เพราะฉะนั้น การทำงานในสภาจะพอเห็นได้ว่า พรรคได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อกระจายโอกาส เปลี่ยนจากบนลงล่าง เป็นล่างขึ้นบน ทำให้เห็นภาพเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม ทั้งหมดจะอยู่ในช่วงการหาเสียง ดีเบต และการเสนอวาระ 100 วันแรกที่พรรคการเมืองทำได้
 

นายพิธายังเปิดเผยอีกว่า ในช่วง 100 วันแรกที่ยังอยู่ในทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ต้องรอกฎหมายหรืองบประมาณใหม่ อย่าง หวย SME ที่สามารถทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ทันที การชดเชยน้ำท่วมให้กับเกษตรกร โดยใช้ดาวเทียมจิสด้า แทนการใช้หน่วยงานรัฐ คูปองเมืองรอง ทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวไม่กระจุกตัวแค่ 5 จังหวัด เพื่อทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจเท่าเทียมกัน ซึ่งพรรคจะเป็นชุดคำตอบ ในการเสนอความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประชาชน

 

นอกจากนี้นายพิธายังให้มุมมมองต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศอีกว่า ด้วยประสบการณ์ที่เป็น ส.ส.มา 4 ปี บางเรื่องทำได้ด้วยอำนาจบริหาร บางเรื่องทำได้ด้วยอำนาจงบประมาณ บางเรื่องทำได้ด้วยการแก้กฎกระทรวง หรือแก้พ.ร.บ. ดังนั้นแนวทางของพรรคจึงมีความแตกต่างจากปี 62 และต้องการเข้าไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจับต้องได้จริง
 

สำหรับความแตกต่างของว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกล และพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีความแตกต่างกัน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้การนำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจมีเวลาไม่มาก เพราะต้องการเป็นพรรคระดับชาติ หาให้ได้ครบ 350 เขต และมีเวลาจำกัด

 

ขณะที่ตอนนี้เป็น พรรคก้าวไกล ซึ่งมีเวลาเตรียมพร้อมมาเกือบ 2 ปี สำหรับทั้งการคัดกรองผู้สมัคร สอบสัมภาษณ์ รวมถึงการลงพื้นที่ และยังมีหลักสูตรการเมืองโดยเฉพาะของพรรคก้าวไกล ในการอบรมทำให้เป็นนักการเมืองที่โดดเด่นในพื้นที่และทำได้ดีในสภาอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมียุทธศาสตร์รักษาเขตเดิม เพิ่มเติมเขตใหม่ ซึ่งมีข้อมูลเป็นตัวตั้ง ดังนั้น นายพิธาจึงมั่นใจว่ามีเวลาการทำงาน ประสบการณ์ และประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมแน่นอน

 

นายพิธา ยังเปิดเผยถึงกรณีการย้ายพรรคของพรรคก้าวไกลว่า ต้องยอมรับว่าเป็นความผิดของพรรค และก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้เกิดกับก้าวไกลเพียงพรรคเดียว แต่เป็นระบบนิเวศการเมืองไทยที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ โดยในต่างประเทศเรียกว่า Banana Democracy หรือ ประชาธิปไตยแบบกล้วย ๆ เป็นระบบนิเวศทำให้เกิดงูเห่า และบั่นทอนระบบประชาธิปไตย
 

ผมยกตัวอย่างมาเลเซียที่เพิ่งผ่านกฎหมายใหม่ คือ คุณเป็น ส.ส.พรรคไหน แล้วต้องการย้ายพรรค ต้องลาออกอย่างเดียว ไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อให้เกิดความต่างระหว่างการลาออกกับไล่ออก ไม่เหมือนอย่างรัฐบาลไทย เป็นระเบิดเวลารัฐธรรมนูญ 60 ทำไว้ขึ้นมา ทำให้ระบบรัฐสภาอ่อนแอ และมีการเอาจุดอ่อนตรงนี้ มาทำให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ซึ่งเป็นจุลภาคของผม และเป็นเรื่องมหภาคที่ต้องช่วยกันคิด