posttoday

'ประยุทธ์'ฉุนสื่อถามปมจม.เปิดใจ-ประวิตรย้ำ 3ป.Forever อยู่แล้ว

13 มกราคม 2566

'ประยุทธ์' ฉุนสื่อถามปมจดหมายเปิดใจของ 'ประวิตร' ยันสัมพันธ์3ป.ยังเหมือนเดิม ขออย่าขุดคุ้ยสร้างความแตกแยก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เขียนจดหมายเปิดใจและอวยพรรวมถึงสาเหตุที่ต้องแยกทางกันเดินว่า พล.อ.ประวิตรจะเปิดก็ให้เปิดไป เป็นเรื่องของพลเอกประวิตรไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะเดียวกันยังไม่ได้ฟังและเห็นจดหมายทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ดีมาตลอด และอวยพรกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว 

พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามกลับสื่อว่า“ทำไมจะต้องให้แตกแยกกัน มันจะแตกกันแล้วหรือไง”พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาก็พูดมาตลอด เหมือนที่พล.อ.ประวิตรที่พูดมาหลายรอบแล้ว ว่าไม่ได้มีปัญหากัน ไม่รู้ว่าพล.อ.ประวิตรจะน้อยใจเรื่องอะไร และเราก็ไม่ใช่คนใจน้อยกันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเจอหน้าได้คุยกันบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆว่า “ไม่รู้ดิ มีเวลาก็ไป เวลาผมก็มี ไม่ใช่ว่าจะมีเวลามากไปไหนก็ได้ทุกวันเสียเมื่อไหร่ ว่างวันไหนก็ไป วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ว่างตอนไหนก็ไปแค่นั้นเอง ชีวิตส่วนตัวผมก็คือของผม ต้องมีเวลาให้กับครอบครัวใช่ไหมล่ะ จะเอาทุกอย่าง มองทุกอย่างเป็นการเมืองทั้งหมดเลยก็ไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำว่ากับพลเอกประวิตรอยู่ด้วยกันนาน 40-50 ปีแล้ว ไม่ใช่จะไปวันนี้ ร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบก็ผ่านมาแล้ว อยู่ชายแดนก็อยู่ด้วยกันมาแล้ว จะอะไรนักหนา ไม่เข้าใจ

เมื่อถามต่อว่ามีอะไรอยากสื่อสารไปถึงพลเอกประวิตรหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ตอบด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า 

“ไม่มี จะฝากอะไรล่ะ ไม่ต้องอะไรผ่านใคร เพราะผมพูดกับท่านโดยตรงอยู่แล้ว ทำไมจะต้องฝากใครไปบอก และทำไมจะต้องไปขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้มาเป็นประเด็น ไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจจริงๆ แต่ผมก็ทนได้ และผมไม่จำเป็นต้องตอบทุกเรื่องอยู่แล้ว” 

ทั้งนี้ หลังจากพลเอกประยุทธ์ เดินขึ้นรถได้กล่าวสั้นว่า “คิดเองกันหมด”

ก่อนนี้ เพจเฟซบุ๊ก “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ซึ่งเป็นเพจทางการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้โพสต์เป็นจดหมายเปิดใจ ระบุว่า จดหมายเปิดใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื้อหาได้ระบุว่า 

“เป็นที่ทราบกันดีว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยครั้งใหญ่ หลังการรัฐประหารโดย คสช. เมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ด้วยความจำเป็นของกองทัพภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ต้องออกจากกรมกองมายุติวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองที่ก่อตัวมานานนับปี จนสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ชื่อเสียงประเทศ และบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

ขณะนั้น ผมเกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. ไปตั้งแต่ พ.ศ. 2548 จึงทำได้เพียงเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จัดตั้งรัฐบาลเพื่อปฏิรูปบ้านเมืองและจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผมก็ได้ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลในตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อหวังจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ให้คืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ต้องยอมรับความจริงว่า คสช. ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการเมือง เพราะต่างก็เป็นทหารอาชีพมาทั้งชีวิต ฝึกฝนเรียนรู้มาในด้านการปกป้องอธิปไตยของชาติ ตัวผมเองก็เช่นกัน แม้จะเคยเป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านการเมือง จึงทำได้เพียงช่วยดูแลเหล่าทัพให้มีเสถียรภาพเท่านั้น

ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้รีบจัดการเลือกตั้งทั่วไป รัฐบาลในขณะนั้นก็ตระหนักดีถึงความต้องการของประชาชน และความชอบธรรมของรัฐบาลจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงการยอมรับจากประชาคมโลก จึงเร่งผลักดันกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว

เมื่อกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น เตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงความประสงค์จะทำงานการเมืองโดยอ้างว่เพื่อสานต่อภารกิจที่ดำเนินการไว้ให้สำเร็จ ผมจึงตัดสินใจสนับสนุนให้มีการตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งและเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ให้กลับมาเป็นนายกฯ ตามที่เจ้าตัวปรารถนา

ในช่วงเวลาของการเป็นแกนนำรัฐบาล มีทั้งเรื่องที่ผมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจใน ครม. แต่จำเป็นต้องสงวนท่าทีตามมารยาททางการเมือง ประกอบกับยังไม่มีอะไรชัดเจนว่ามติในเรื่องใดๆ จะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นกับบ้านเมือง

มาบัดนี้ ชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ แสดงจุดยืนทางการเมืองเมื่อวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 ว่าจะแยกทางจากพรรคพลังประชารัฐที่เคยสนับสนุนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อไปร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ตรงกับที่สื่อมวลชนไปสืบข่าวมาก่อนหน้านี้ ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคสำรองให้กับ พล.อ.ประยุทธ์

ผมเคยกล่าวไว้ว่า “3 ป. Forever” มาวันนี้ ผมก็ยังมีความรู้สึกเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในเมื่อท่านตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ผมก็ไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ คงจะบอกได้เพียงว่า ผมขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ขอให้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางการเมืองใหม่ที่ท่านได้ตัดสินใจเลือกแล้ว

สำหรับผม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ​ขอประกาศในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะขอรับผิดชอบและจะไม่มีวันทอดทิ้งสมาชิกพรรคทุกคน ที่เคยทำงานการเมืองมาด้วยกัน และพร้อมจะเดินนำทุกคนที่มีความเชื่อมั่นในความตั้งใจอันแน่วแน่ของผม เข้าสู่การเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป เพื่อกลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารบ้านเมืองอีกครั้ง”

เวลาต่อมาพล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเพจเฟซบุ๊กของตัวเองกรณีจดหมายเปิดใจดังกล่าวว่า พรรคมาสอบถามว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรก็ว่าไป 

เมื่อถามว่า แต่เนื้อความมาจากพล.อ.ประวิตร เป็นผู้พูดทั้งหมด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จริงๆแล้วไม่มีอะไร 

เมื่อถามย้ำว่า 3ป. Forever ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ก็ Forever อยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า จะมีฉบับที่ 2 ถึงน้องชายอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าไม่มีแล้วพร้อมหยอกล้อกับนักข่าวว่า คุณเขียนสิ.