'สันติ'เมินส.ส.พปชร.ย้ายตามประยุทธ์ ชู ประวิตรเหมาะเป็นนายกฯมากกว่า
สันติ เลขาพลังประชารัฐ เมินส.ส.ย้ายตามประยุทธ์ไปรวมไทยสร้างชาติ ชู ประวิตรเหมาะเป็นนายกฯมากกว่า กำลังปลุกกระแสแลนด์สไลด์แค่ไม่อยากคุยเยอะ หากได้เสียงเกินครึ่งพร้อมตั้งรัฐบาลพรรคเดียวไม่จำเป็นต้องจับมือใคร
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การลาออกของส.ส.ภายในพรรคไปรวมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ขณะนี้พรรคมีผู้สมัครส.ส.ในแต่ละเขตมากกว่า1คนมและได้คนดีๆมาร่วมงานเยอะมาก สามารถทดแทนคนเก่าที่ลาออกไปได้ ซึ่งพรรคจะมีการประชุมกันเพื่อชู พล.อ. ประวิตรวงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในเดือนหน้าแต่ยังไม่มีการกำหนดวัน แต่การจะชูพล.อ.ประวิตรคนเดียว หรือมี3ชื่อแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคที่ในขณะนี้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
"พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ทำเพื่อบ้านเมืองมาตลอดชีวิตถ้าหากกรรมการบริหารพรรคให้เหตุผลว่าท่านควรจะช่วยเหลือบ้านเมืองพัฒนาบ้านเมือง ด้วยการที่จะเป็นเบอร์ 1 ในการนำพาเศรษฐกิจนำพาความมั่นคงนำพาความอยู่ดีกินดี มีเงิน พล.อ. ประวิตรจะไม่รับได้อย่างไร เพราะท่านเสียสละเพื่อชาติมาตลอด"
นายสันติ ระบุว่า การเสนอชื่อพล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขออย่าเรียกว่าจะต้องแข่งกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะอยู่ที่ประชาชนเห็นว่าใครจะสามารถเป็นที่พึ่งที่หวัง สร้างอนาคตให้กับชนบท มีความเจริญรุ่งเรืองโดยเฉพาะการพัฒนาลูกหลานให้มีศักยภาพ และการไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกหวั่นไหว หากอนาคตใครทำดี เราก็ต้องทำให้ดีมากกว่า ส่วนตัวมองว่าพล.อ.ประวิตรเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะมีความสามารถใช้คนให้เหมาะกับงานใช้ใคร แล้วประสบความสำเร็จทุกเรื่อง
ส่วนการส่งผู้สมัครในพื้นที่หลายคนมองว่าพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติมีฐานเสียงเดียวกันหากลงซ้อนกัน อาจจะแพ้การเลือกตั้งทั้งคู่ นายสันติกล่าวว่า เรามั่นใจ เรื่องการส่งผู้สมัครชนกันทุกพรรคเพราะมีกติกาที่เราต้องเข้าใจ หากหลีกทางกัน ประชาชนก็จะไม่ได้เลือก เพราะเป็นการตัดอำนาจประชาชนพลังประชารัฐ พร้อมสู้เต็มที่ทุกเขต และยืนยันว่าไม่มีการดิวกันเพื่อหลบเขตระหว่างพรรคพี่พรรคน้องอย่างแน่นอน
ขณะที่การจับมือร่วมงานในอนาคต หัวหน้าพรรคของพลังประชารัฐเป็น คนที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน เพราะฉะนั้น เรื่องการไปรังเกียจ ส.ส. หรือ พรรคการเมือง ไม่สามารถทำได้ เพราะประชาชนเลือกมา
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ายินดีร่วมกับทุกภาครวมถึงพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นานสันติ กล่าวว่า อย่างเพิ่งไปคิดตอนนั้น ให้พี่น้องประชาชนเลือกเราให้มากๆก่อน เลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นอันดับหนึ่ง ได้ ส.ส. เกินครึ่ง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องร่วมกับใครได้ใช้นโยบายของ ที่มีความตั้งใจจะประกาศออกมาเร็วๆนี้ ได้เต็มประสิทธิภาพ 100% ส่วนจะสามารถปลุกกระแสพรรคพลังประชารัฐแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ เราก็พยายามอยู่แต่ไม่อยากคุย
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ นายสันติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่ นายกรัฐมนตรี ได้เดินออกมาจากตึกสินติไมตรี เพื่อเข้าห้องรับรองก่อนเริ่มประชุม โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้หันมามองมีเพียงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่หยุดฟัง และโบกมือให้กับสื่อมวลชน


