posttoday

อนุทิน ประกาศไม่เอาสูตร "นายกคนละครึ่ง"

03 มกราคม 2566

อนุทิน ประกาศปัดสูตร "นายกคนละครึ่ง " ลั่น ไม่ขอเป็นทายาทของใคร หากหลังเลือกตั้งรวมเสียงได้มากกว่า 250 เสียง สว.ต้องใช้ดุลพินิจว่าถ้าไม่สนับสนุนพรรคที่ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งของสภา ส.ว.จะตอบประชาชนอย่างไร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงงสูตรคนละครึ่งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นก่อน 2 ปี และต่อด้วยนายอนุทิน 2 ปี เป็นไปได้หรือไม่ ว่า "ตรงนี้ไม่รู้มาจากไหน ตำแหน่งแบบนี้มีทายาทการเมืองได้หรือ และตนไม่ขอเป็นทายาทของใคร จะเป็นอะไรก็ทำด้วยตัวเอง ที่สำคัญเราไม่ได้เลือกหรือแต่งตั้งตัวเอง กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านไม่รู้กี่ด่าน โดยเฉพาะความต้องการของประชาชน ดังนั้น สิ่งที่ดูแล้วไม่เกี่ยวข้องกับทางเดินของเรา เราก็ไม่คิด ตอนนี้คิดแค่ว่านโยบายดีแล้วหรือไม่ ชาวบ้านเชื่อหรือไม่ ผู้สมัครแข็งแรง ขยันลงพื้นที่หรือไม่ ตอนนี้คิดแค่นี้ และขอทำตรงนี้ให้ดีที่สุด"

เมื่อถามว่า หากพรรคภูมิใจไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และได้ส.ส.จำนวนมากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ที่คาดว่าชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หรือพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่คาดว่าชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน จะเป็นนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยรวมได้เยอะกว่าพรรคอื่นๆ ก็ต้องดูว่าส.ว.จะทำอย่างไร

เราหวังว่าถ้าเรารวมได้ 250 เสียงหรือมากกว่านั้น ส.ว.ก็ต้องใช้ดุลพินิจว่าถ้าไม่สนับสนุนพรรคที่ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งของสภา ส.ว.จะตอบประชาชนอย่างไร ตรงนี้อยู่เหนือการควบคุมของพรรคภูมิใจไทย

ส่วนการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยอาจได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ของขั้วรัฐบาลเดิมว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้น ใครจะวิเคราะห์อย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็จะเดินไปแบบนี้ ทำนโยบายแบบนี้ เราอาจจะไม่เด่นในเรื่องของพรรคที่มีกระแส เราต้องเน้นเรื่องสมาชิกที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน ใกล้ชิดพื้นที่ ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน สมาชิกเหล่านี้ถือเป็นฟันเฟืองของพรรค ในฐานะผู้สมัครส.ส. นี่คือการที่พรรคเข้าถึง และสื่อสารกับชาวบ้าน

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็สื่อกับพรรคผ่านสมาชิกเหล่านี้ ในเมื่อเราไม่ทราบว่ากระแสเราแข็งแรงขนาดไหน แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่เชื่อมต่อกับประชาชนได้