posttoday

'สมคิด'ชี้ปี66ศก.โลกถดถอยกระทบการลงทุนมีข้อจำกัด

21 ธันวาคม 2565

'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' ชี้ ปี66 หลายชาติเศรษฐกิจถดถอย กระทบส่งออก การค้า ท่องเที่ยวทั่วโลก ภาคลงทุนมีข้อจำกัดใช้จ่ายต้องมีประสิทธิภาพ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีไปปาฐกถาเรื่อง “โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ประเทศไทยจะเปลี่ยนไหม”ในงาน “วันธรรมศาสตร์ 10 ธันวาคม 2565 งานคืนสู่เหย้า” เนื้อหาดังนี้

เศรษฐกิจมันควรจะฟื้น ปีที่แล้วกับปีนี้หนักหนาสาหัส ปีหน้าเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นขึ้นมา มันจะเริ่มดีขึ้น คนเราเมื่อคุ้นเคยกับโควิดแล้ว จะกล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย มาเดินห้าง แต่จะเป็นการฟื้นตัวที่ไม่แข็งแรง เพราะปัจจัยอื่นๆ ยังไม่ฟื้น นิตยสาร The Economist ฟันธงว่าปีหน้าโลกจะเผชิญกับอะไรบ้าง
 

โลกจะเผชิญกับ Global Recession การเติบโตทางเศรษฐกิจจะต่ำมาก หลายๆ ชาติจะเศรษฐกิจถดถอย อเมริกาโดนแน่นอน EU ก็ตามมาละ ถ้าชาติใหญ่ๆ เกิดภาวะเศรษกิจถดถอย จะกระทบแน่นอนต่อการส่งออก การค้า และการท่องเที่ยวทั่วโลก ตัวแปรเหล่านี้จะกดดันไม่ให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วเท่าที่ควร

 ปีหน้ามีการทำนายว่าจะมี revenge tourism การท่องเที่ยวแบบล้างแค้น หลังไม่ได้เที่ยวมานาน 3-4 ปี แต่ก็ยังมีเพดานบางอย่าง ขวางกั้นไม่ให้ฟื้นตัว

การลงทุนเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การตัดสินใจเลือกลงทุนประเทศไหนจะยากขึ้น ประเทศไทยมีดีไหมที่เค้าจะมาลงทุน ผู้คนเริ่มออกไปจับจ่ายใช้สอย แต่ก็ตระหนักว่าเงินทองไม่ได้มีเยอะ ที่เห็นซื้อของกันเยอะแยะเพราะเป็นคนมีเงิน แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศ...กรอบ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ค่าพลังงาน ยังไม่รวมหนี้ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจับจ่ายใช้สอย

ที่บอกว่ารถยนต์ขายดีมากนั้น นั่นเฉพาะคนรวย ประเทศเรามีสองขั้ว การใช้จ่ายต่างๆ จะมีเพดานอยู่ อย่าหวังในเรื่องงบประมาณการลงทุนของรัฐบาล เรารู้กันอยู่แล้วว่าตอนนี้ไม่มีตังค์ ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล งบมันไม่มีแล้ว เก็บภาษีไม่ได้ กระเป๋าฉีกแล้วฉีกอีก

ในเมื่อเงินเหลือน้อยแล้ว การจะเอาเงินไปลงทุนในภาคต่างๆ มันไม่ได้ง่าย ถ้าเอาไปแล้วใช้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเอางบไปใช้แบบไม่รู้จะใช้อย่างไร แบบนี้ถือว่าทำบาปกับประชาชนสูงมากในยุคที่ไม่มีตังค์ การใช้จ่ายของรัฐบาล การลงทุนต่างๆ มันมีข้อจำกัด