สนธิรัตน์ ชี้พรรคเล็กต้องปรับตัวขนานใหญ่ สู้สูตรหาร100

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญมติชี้ขาดร่างกฎหมายเลือกตั้งสำคัญ2เรื่อง ประกอบด้วย ร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองและร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.ว่าไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการใช้สูตรหาร100 คำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงของการลงพื้นที่ แนะนำว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคและการแนะนำนโยบายให้เป็นที่รู้จักของประชาชนในพื้นที่

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ปรับคณะรัฐมนตรี มีการแต่งตั้ง3รัฐมนตรีใหม่ จำนวน3คน ประกอบด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุนทร ปานแสงทอง  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายนริศ ขำนุรักษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมองว่า"เป็นการปรับเล็กเพื่ออยู่สั้น" เนื่องจากผู้ที่เข้ามาดำรงรัฐมนตรีใหม่นี้ ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดในทางการเมืองและตอบแทนสัญญาใจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อนนี้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยว่า สูตรหาร100 ที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นกติกาการเลือกตั้งใหม่ ที่พรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคขนาดเล็กและพรรคตั้งใหม่ต้องมีการปรับตัว แต่ในส่วนของสร้างอนาคตไทยได้เตรียมทางออกเรื่องนี้เอาไว้แล้วคงไม่มีการเปลี่ยนยุทธศาสตร์พรรคในการแนะนำนโยบายหาเสียงกับประชาชน 

นอกจากนี้ เห็นว่า สูตรเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หาร 100 นอกจากทำให้พรรคขนาดเล็กและพรรคตั้งใหม่ต้องมีการปรับตัวกันขนานใหญ่แล้ว จากนี้ไปจะเห็นการหารือกันมากขึ้นระหว่างพรรคการเมือง ในประเด็นการควบรวมกัน 

ส่วนสถานการณ์การเมืองจนถึงขณะนี้ เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะอยู่ครบวาระเพราะเพิ่งมีการปรับคณะรัฐมนตรี การเลือกตั้งแม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นในเร็วนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับพรรคสร้างอนาคตไทย 

"เราเตรียมการไว้พร้อมแล้วไม่ว่าการเลือกตั้งจะใช้สูตรไหน ก็พร้อมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งส.ส. การควบรวมระหว่างพรรคการเมือง ก็คิดว่ามีการพูดคุยกันอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น" นายสนธิรัตน์ ตอบประเด็นนี้ กับคำถามที่ว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ไปรวมกันกับพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ หลังจากที่ก่อนนี้เคยมีกระแสข่าวรวมพรรคการเมืองเพื่อให้ได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง