พระสงฆ์ไทยเผยติดคุกเขมรอยู่ลำบาก-อาหารการกินแย่

พระสงฆ์ไทย 2 รูปเผยประสบการณ์หลังถูกขังคุกเขมร ระบุชีวิตอยู่ในคุกแสนลำบากอาหารการกินแย่

พระสนอง วงศ์เจริญ และ พระลิ้ม พวงเพชร  2 ใน 3 ชาวไทยซึ่งบวชแก้บนที่วัดเต่าทอง บ้านตาโมม ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังพ้นคุกที่ถูกทหารกัมพูชา จับตัวไป ดำเนินคดีข้อหาลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายกคุมขัง อยู่ภายในเรือนจำ กลางจังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาเป็นเวลา 4 เดือน 2 วันและได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ในโอกาส ที่มีการประกาศ ครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ ไทย – กัมพูชาว่าความเป็นอยู่ในเรือนจำกัมพูชาเต็มไปด้วยความยากลำบาก

พระสนอง-พระลิ้ม

พระสนอง กล่าวว่า   เรือนจำกลางจังหวัดเสียมราฐ มีนักโทษหลายเชื้อชาติ และนักโทษชาวเขมรกว่า 3,000 คน ห้องขังหนึ่งห้องจะมีนักโทษ แออัดกันอยู่ 8-11 คน และไม่มีการตีตรวน นักโทษ ไม่มีแดน ว่า แดนไหน เป็นนักโทษ ทำผิดอะไรมา แต่จะถูกปล่อยให้อยู่รวมกันทั้งหมด หากมีการทะเลาะกัน ผู้คุมภายในเรือนจำ ก็จะทำการลงโทษ อย่างหนัก เป็นการตีจนกระทั่งสลบไปก็มี ต้องเอาน้ำเย็นมาสาดใส่ เพื่อฟื้นขึ้นมาก็มี 

นอกจากนี้อาหารการกินจะลำบาก เพราะกินข้าว สองเวลา ในช่วงเช้า กินเวลา 4 โมงเช้า และตอนเย็นเวลา บ่าย 2 โมง ข้าวที่ได้รับมาก็จะได้เป็นถ้วยเล็กๆกินไม่อิ่ม เพราะนักโทษมาก กับข้าวก็จะเป็นผักบุ้ง ผัดคะน้า แกงมะละกอ วันหนึ่งให้ ออกจากห้องขังวันละ 2 ครั้ง

พระสนอง กล่าวอีกว่า สำหรับข้าวที่เอามาให้กินก็จะเป็นข้าวเมล็ดสีแดง มีเมล็ดดอกหญ้าผสมเยอะ แต่อย่างไรก็ตาม นักโทษชาวไทย ยังได้รับการดูแล จากผู้คุมเรือนจำ ดีกว่า นักโทษชาวกัมพูชา เพราะเขากลัวว่า จะนำเรื่องความเดือดร้อน แจ้งเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ผู้คุมก็จะได้รับความเดือดร้อน ถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิ 

ขณะเดียวกันยังได้มีโอกาส ได้คุยนักโทษชาวกัมพูชา ที่สามารถพูดไทย ได้ เพราะมาทำงานที่จังหวัดสุรินทร์ พบกันภายในเรือนจำจังหวัดเสียมราฐ บอกว่าชอบที่จะไปทำงานที่เมืองไทย เพราะรายได้ดี และชอบที่จะติดคุกในเมืองไทยดีกว่าคุกในกัมพูชา เพราะคุกในเมืองไทย มีการดูแล ผู้ถูกคุมขังเป็นอย่างดี มีอาหารกินอิ่ม ส่วนที่ถูกจับมาขังคุกในประเทศตนเอง เพราะมีคดี ลักลอบขโมยรถจักรยานยนต์ ในจังหวัดเสียมราฐ