posttoday

"มนัญญา"ชง"ดีเอสไอ"สอบทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ491ล้านบาท

06 เมษายน 2565

"รมช.มนัญญา"เสนอนายกฯนำกรณีทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯส่งดีเอสไอยกเป็นคดีพิเศษ ยันคุ้มครองความเสียหายของสมาชิก เบื้องต้นพบเสียหาย 491 ล้านบาท 85 ราย

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2565 น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากกรณียักยอกทรัพย์ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.65 ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้นข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย.65 พบผู้เสียหาย 85 ราย จำนวนเงิน 491 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าไปร่วมกับกรรมการสหกรณ์ในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย รวมทั้งประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้คดีนี้เข้าไปอยู่ในกฎหมายปปง.และดีเอสไอ เพื่อสามารถตรวจสอบเชิงลึก เรียกหลักฐานเอกสาร บัญชีและทรัพย์สินที่มีการโอนถ่ายหรือแอบแฝงไว้ในบัญชีผู้อื่น

นอกจากนั้น ขอฝากให้สหกรณ์ทั่วประเทศนำระบบเงินฝากเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชั่นที่กสส. และกตส. ได้ทำขึ้น เพื่อให้สมาชิกผู้ฝากเงินสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของแต่ละคนได้ตลอดเวลา (Real Time) กรณีที่สหกรณ์ใดประวิงเวลาหรือไม่ดำเนินการตามนี้ ก็อาจจะเป็นเหตุให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่าส่อกระทำการทุจริตหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องฝากสมาชิกสหกรณ์ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนให้สหกรณ์ของตัวเองเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชั่นดังกล่าว “ จะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ลงนามให้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งล่าสุด ดิฉันและกสส. กตส. มีหลักฐานเส้นทางการเงิน เส้นทางทรัพย์สิน ทั้งในอดีตหรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายซื้อของล่าสุดไว้ในมือหมดแล้ว บางรายการเปิดเผยไม่ได้ เพราะอาจกระทบกับหลักฐาน ดังนั้นขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตว่า ควรมามอบตัวและคืนทรัพย์สินที่มีการยักยอกไป เพื่อบรรเทาโทษ ดังนั้นเชื่อว่าการสืบทรัพย์จะใช้เวลาไม่มากที่จะนำมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ ส่วนผู้กระทำผิดนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่าบางคนหนีไปประเทศลาว บางคนหนีไปประเทศเวียดนาม ก็ขอฝากไปถึงทั้งสองคนว่าให้กลับมามอบตัวเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะขณะนี้การกระทำของทั้งสองคนทำให้ครอบครัวเดือดร้อน” รมช.มนัญญา กล่าว ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กสส. และกตส. เร่งรัดดำเนินการใน 2 มาตรการคือ 1. ให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง 2 กรม เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ และผลกระทบที่สมาชิกได้รับและรายงานผลให้ทราบภายในเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนั้นให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หากพบรายใดมีส่วนกระทำผิดให้ใช้อำนาจนายทะเบียนสั่งหยุดหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่งทันที หากจำเป็นให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการชั่วคราวขึ้นมาแก้ไขปัญหาได้ รวมทั้งให้อธิบดีทั้งสองกรมประสาน ปปง. และดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของผู้กระทำผิด ทั้งสืบค้น อายัดทรัพย์สิน เพื่อป้องกันความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด (เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกว่า 100 ล้านบาท)

2. ให้กตส. ตรวจสอบสถานะทางการเงินของสหกรณ์ว่ายังมีสภาพคล่องอย่างไร ดำเนินกิจการได้ตามปกติหรือไม่ และให้ตรวจสอบการทำงานของเอกชนที่สหกรณ์จ้างตรวจบัญชีว่า มีมาตรการการตรวจสอบอย่างไร ระหว่างการตรวจสอบควรระงับการสอบบัญชีของเอกชนรายนี้ หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นให้ถอดชื่อออกจาทำเนียบของกรม หรือแบล็คลิสต์ ส่วนการแก้ไขในระยะต่อไป ให้ทั้งสองกรมไปตรวจสอบว่ายังมีช่องโหว่ใด ของระเบียบและกฎหมายที่ทำให้สามารถทุจริตได้ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ปิดสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห้ามคนเข้าไป เพื่อป้องกันการทำลายเอกสาร นอกจากนั้น ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขข้อบกพร่องโดยเร่งด่วน โดยให้ไปดูว่าระเบียบคำสั่งใดที่สมควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องอะไรหรือไม่ เพื่อนำมาสู่การพิจารณาปรับปรุงให้บังคับใช้ได้ในระยะต่อไป

นายประกอบ พงศ์เผ่า รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 85 ราย วงเงิน 491 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังตรวจสอบไม่ครบ 100% ดังนั้นขอให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ทุกท่าน เร่งแจ้งรายชื่อหรือตรวจสอบทรัพย์สินของตนภายในวันที่ 8 เม.ย. นี้ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ครอบคลุมทั้งหมด

นางอัญชนา ตราโช รองประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า สหกรณ์มีทุนเรือนหุ้น 1,574 ล้านบาท เงินฝากของสมาชิกออมทรัพย์ 1,600 กว่าล้านบาท ทุนสำรอง 151 ล้านบาท และเงินลงทุน 650 ล้านบาท ทั้งนี้สหกรณ์พร้อมที่จะนำเอาเงินลงทุน 650 ล้านบาทมาสำรองเพื่อแก้ไขความเสียหายดังกล่าว บรรเทาความเดือดร้อนสมาชิกที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นสหกรณ์ยังมีความมั่นคงทางการเงินในการให้บริการแก่สมาชิก

ทั้งนี้ ในที่ประชุมวันนี้ มีสมาชิกสหกรณ์ผู้เสียหายที่ถูกถอนเงินออกจากบัญชีเข้าร่วมชี้แจงจำนวนมาก โดยบางรายชี้แจงว่าบัญชีถูกถอนตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 40 ครั้ง ขณะที่บางรายถูกถอนจำนวน 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ถูกถอน คือเดือนสิงหาคม 2564 รวมยอดที่ถูกถอนจำนวน 3.4 ล้านบาท อีกรายแจ้งว่าถูกถอนตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 7 มี.ค.65 รวม 11 ครั้ง