ม.ดังโคราชรุ่นพี่รับน้องโหดถึงตาย พ่อแม่เหยื่อขอดำเนินคดีถึงที่สุด
นครราชสีมา-ม.ดังโคราชจ่อพิจารณาไล่ออกรุ่นพี่รับน้องโหด บังคับดื่มเหล้าขาวทำร้ายจนเสียชีวิต พ่อแม่เหยื่อสุดเศร้าขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
กรณี นายพัดยศ ชนภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี ชาวตำบลกฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา เสียชีวิตจากการรับน้องใหม่ถูกรุ่นพี่บังคับให้ดื่มเหล้าขาวและทำร้ายร่างกายที่ทุ่งนาบ้านหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมาและเสียชีวิตระหว่างนำรพ.ค่ายสุรนารี
นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี พ่อผู้ตาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทราบข่าวการเสียชีวิต รู้สึกเสียใจอย่างมากแทบเป็นลมไม่คาดคิดว่าจะเกิดแบบนี้ขึ้นกับลูกชายของตนเอง เพราะมันเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งกับน้องๆหลายคนที่ต้องมาเสียชีวิตเพราะการรับน้องโหดไม่อยากให้เกิดขึ้น หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่มันเจ็บปวดมากเพราะทุกคนต่างตั้งความหวังไว้กับลูก ส่งให้มาเรียนหนังสือ แต่สุดท้ายก็มาจบลงด้วยเหตุที่ไม่ควรเกิดแบบนี้ ยังทำใจไม่ได้ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้านนางนิตยา ชนภักดี อายุ 42 ปี มารดาของผู้ตาย บอกว่า ปกติลูกชายเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนในจังหวัดมาหลายปี ถ้าถูกรุ่นพี่เพียง 1 คนทำร้าย ก็เชื่อว่าอาการคงไม่หนักแต่ลูกชายกลับได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสจนถึงแก่ชีวิต คงจะโดนรุ่นพี่หลายคนรุมรับน้องเพราะเพื่อนที่ไปรับน้องด้วยกัน บอกว่า ทุกคนโดนรับน้องหมด โดยต่อยที่หน้าอก และน่าจะโดนที่จุดอื่นด้วย ที่สำคัญคือลูกชายน่าจะโดนอย่างรุนแรงหลายครั้งจากหลายๆคน จึงทำให้เสียชีวิตลงได้ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานของใคร ขอให้เป็นกรณีสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก
ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุเกิดดังกล่าวขึ้นในช่วงปิดภาคการศึกษา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 เวลา 23.00 น.สถานที่เกิดเหตุอยู่ภายนอกมหาวิทยาลัย ห่างออกไปกว่า 10 กิโลเมตร ถือว่าเป็นการขัดระเบียบคำสั่งของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง และจะต้องมีบทลงโทษนักศึกษาผู้ร่วมก่อเหตุทุกคนอย่างถึงที่สุด ส่วนจะถึงขั้นพักการเรียนหรือไล่ออกหรือไม่ก็คงจะต้องไปประชุมคณะกรรมการสอบสวนของมหาวิทยาลัยก่อน รวมทั้งต้องนำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตมหาวิทยาลัยได้อำนวยความสะดวกและให้ความดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่และดีที่สุด สำหรับรายละเอียดอื่นๆ มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการติดตามและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนสภ.มะเริง เพื่อสอบสวนหาผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายโดยเร็ว


