posttoday

เจ้าหน้าที่แจ้งเอาผิดนักท่องเที่ยวดำน้ำนั่งบนปะการังสัตหีบ

13 กุมภาพันธ์ 2565

เจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีนักท่องเที่ยวดำน้ำไปนั่งบนปะการังที่ เกาะครามน้อยสัตหีบ ชี้มีโทษหนักจำคุกไม่เกินสิบปีปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท ด้านเจ้าตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาระบุไม่ได้เจตนาและไม่รู้ว่าเป็นปะการัง

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 65 นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อม ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท. สำราญ สุขโต สารวัตร(สอบสวน) สภ.สัตหีบ ให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เผยแพร่ภาพดำน้ำไปนั่งบนปะการัง บริเวณเกาะครามน้อย ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนเข้ามา ในข้อหา การล่าหรือทำอันตรายด้วยปะการอื่นใดแก่สัตว์ป่า ที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 3 ประกอบ มาตรา 12 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ในรูปพบว่า เป็นปะการังชนิด ปะการังโขด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง สัตว์ป่าไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ ลำดับที่ 4 ปะการังแข็งทุกชนิดในอันดับ (Order Scleractinia) กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546

การกระทำตามภาพจะทำให้หนวดของปะการรังหดตัวและหลั่งเมือกออกซึ่งต้องใช้พลังงานและออกซิเจนสูง ส่งผลต่อการสังเคราะห์แสงและอัตราการเติมโตลดลง ปะการังอาจเกิดการฟอกขาวและทำให้ปะการังถึงแก่ความตายได้ ประกอบกับการจับสัมผัสหรือการนั่งทับปะการังทำให้ปะการังเกิดความเครียดและอาจเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อการสัมผัสหรือถูกกดทับ นานไปจะทำให้ปะการังส่วนที่ถูกสัมผัสหรือกดทับตายได้ ซึ่งถือการว่าเป็นการล่าหรือทำอันตรายด้วยปะการอื่นใด แก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ

ขอฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวดูปะการัง ให้ช่วยกันสอดส่องและรักษาสิ่งแวดล้อม ห้ามไปสัมผัส หรือโยกย้ายปะการัง โดยเด็ดขาด หากมีการพบเจอ หรือตรวจพบ ทั้งในโลกออนไลน์ หรือต่อหน้า หรือตรวจพบในทางอื่นๆ จะมีการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ต่อมาเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับรับสารภาพ ว่าเป็นบุคคลในรูปที่ไปนั่งทับบนปะการังดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าเป็นปะการัง คิดว่าเป็นโขดหิน ใต้ท้องทะเล โดยรูปนี้ได้ถ่ายไว้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ก่อนจะมีการนำมาโพสต์เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ก่อนจะถูกแจ้งดำเนินคดี ซึ่งต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีเจตนา จะไปทำร้ายปะการัง แต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะไปถ่ายรูปกับธรรรมชาติใต้ท้องทะเลเท่านั้น

ข่าวล่าสุด

ภูฏานกับแผนสุดล้ำ “Mindfulness City” เมืองคริปโตแห่งเทือกเขาหิมาลัย