อุทยานฯเขื่อนศรีฯ ติดป้ายสั่งรื้อบ้านพักตากอากาศรุกที่

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.64 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้สั่งการให้ นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เดินทางไปยังพื้นที่บุกรุกสร้างบ้านพักตากอากาศ ริมลำห้วยแม่กว้า ในพื้นที่ป่าบ้านแม่กว้า หมู่ที่ 1 ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีไว้เมื่อปี 2556 โดยได้นำป้ายติดป้ายประกาศ แจ้งเตือนสั่งให้ ผู้กระทำผิด หรือบริวาร หรือผู้รับจ้าง ทำลายรื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใด ที่ผิดไปจากเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ภายใน 30 วัน หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีดำเนินการรื้อถอนได้ ตามคดีหมายเลขดำที่ อส. 75/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อส.1/2564

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2556 คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ในเขตท้องที่ป่าแม่กว้า หมู่ที่ 1 ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณพิกัด 0500765 E 1601195 N พบพื้นที่บุกรุกยึดถือครอบครอง ลักษณะถูกนำไปปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศลักษณะเป็นรีสอร์ทและเป็นการโอนสิทธิหรือซื้อขาย และยินยอมให้บุคคลอื่นครอบครองและทำประโยชน์ในพื้นที่ผ่อนผันให้ราษฎรอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ภายใต้มติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 และมีการขยายที่ทำกินเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก จำนวน 14-0-38 ไร่ ตรวจยึดสิ่งปลูกสร้างลักษณะบ้านพักตากอากาศ ลักษณะใหม่จำนวน 3 หลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่นอีก 4 รายการ โดยแจ้งความกล่าวโทษ นางอารีรัตน์ เหลืองดอกไม้ ผู้ครอบครองที่ดิน นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรศรีสวัสดิ์ ตาม ปจว. ข้อ 1 เวลา 16.00 น. คดีอาญาที่ 135/2556 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2556

สำหรับคดีอาญาพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกคำสั่งที่ 76/2556 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือทำให้สิ่งนั้นกลับสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 ตามความมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ต่อมาผู้กระทำผิดได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง โดยมีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคดีหมายเลขดำที่ ส.1548/2556 ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งให้รื้อถอนฯ ของหัวหน้าอุทยานฯ ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง และอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ อส. 75/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อส. 1/2564 ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ออกไปให้พ้นอุทยานฯ ได้

นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำผิด ให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และพืชผลอาสินออกไปจากพื้นที่บุกรุกดังกล่าว ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2564 พร้อมติดป้ายประกาศสั่งให้ผู้กระทำผิดรื้อถอนภายในระยะเวลากำหนด ในบริเวณพื้นที่ตรวจยึดบ้านพักตากอากาศดังกล่าว หากผู้กระทำผิดไม่ดำเนินการรื้อถอนฯ ภายในระยะเวลากำหนดพนักงานเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการทำลายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมดังกล่าวเสียเองโดยผู้กระทำผิดจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท (แปดหมื่นบาทถ้วน) พร้อมทั้งต้องชำระเงินเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบห้าต่อปีของค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่