ซินแสชี้ "อุ๊งอิ๊ง" ดวงแกร่งสูสี "ประยุทธ์"
"ซินแสเข่ง" ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์ ชี้ "อุ๊งอิ๊ง" ดวงแกร่งสู้บิ๊กตู่ สูสี แนะทักษิณปล่อยลูกสู้เองอย่าเข้ามาแทรกแซง
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 64 นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือซินแสเข่ง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์เจาะลึกหลังพรรคเพื่อไทยประกาศเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวนายทักษิณ มาเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และอาจก้าวสู่แคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าเทียบดวงความแกร่งและมั่นคงกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ถือว่าราศีดีไม่ห่างกัน แต่จุดปัญหาความแตกร้าวมีอยู่ในดวงชะตาเหมือนกัน ซึ่งหากแก้ไขต้องรู้วิธีป้องกันประกอบกับประสบการณ์ และอำนาจบารมีที่ต่างกัน หากจะสู้ก็สูสีสู้กันได้แบบชัวร์ๆ
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ประกาศชัดเจนว่าเป็นตัวแทนของนายทักษิณ กลายเป็นชี้เหตุภัยร้ายดับอนาคตทางการเมือง กับความหายนะที่ส่อแววแห่งความล่มสลายของพรรค ทั้งที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นแคนดิเดตอย่างเป็นทางการ เท่ากับชี้จุดสร้างศัตรูให้ตนเองแตกแยกทางการเมืองล่วงหน้า
"จุดเด่นในดวงชะตาของน.ส.แพทองธารต้องเป็นตัวของตัวเองห่วงใยครอบครัวได้ แต่ชีวิตใครชีวิตมัน ต้องไม่นำพาบิดาหรือคนในตระกูลเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะดวงคุณทักษิณ ตกดวงดับอับโชคไม่สำเร็จในชีวิต มีเงินล้นฟ้าแต่ไร้อำนาจอีก 10 ปีก็ไม่พ้นบ่วงกรรมชีวิตต้องดิ้นรนตลอด"
"ถ้าไม่อยากให้เป็นตัวทำลายดับอนาคตฝันลูกให้นักการเมืองรุ่นใหม่สู้ด้วยภาวะตนเอง จะมีโอกาสที่จะได้เห็นอนาคตของลูกสาวรุ่งได้อีก 30 ปี แต่ถ้าแทรกแซงอาจต้องดับก่อนขึ้นตำแหน่งผู้นำไม่เกิน 3 ปี จบในปี 2568 แน่นอน ไม่ใช่เพราะเหตุการเมืองทำให้ล่ม แต่ล่มเพราะดวงคุณทักษิณฉุดกระชากให้ล่มสลาย "นายชนม์ทรรศน์ กล่าว
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวอีกว่า ดวงชะตาของนายทักษิณ เริ่มมีผลกระทบตั้งแต่ปี 2545 ตอนอายุ 53 ปี เริ่มตกดวงแตกแยกในปี 2546 ตลอดหลายปีมีแต่มรสุมที่เป็นอุปสรรค จนถึงปี 2561 เป็นปีเบียดเบียนและคิดว่าดวงจะดีในปี 2563 แต่จังหวะชีวิตโหงวเฮ้งคุณทักษิณกลับมีผลกระทบก่อให้เกิดความล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ บวกแรงอาฆาตพยาบาท คางแคบสั้นและเป็นรูปเหลี่ยม เป็นจุดสุดท้ายแห่งชีวิตที่จะต้องปล่อยวาง และหาความสุขใส่ตนเอง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจบแล้วในรอบอายุบั้นปลาย หากไม่จบเหยื่อคนสุดท้ายต้องรับกรรมต่อไป