ศบค.แจง ไม่ได้บังคับ กิจการเปิด 1 ก.ย.ตรวจ ATK- ฉีดวัคซีนคาด 1 ตค. พร้อมมากขึ้น

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงตอนหนึ่งว่า มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แนวใหม่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย หรือ Smart Control and Living with Covid-19 ซึ่งจะเป็นการทยอยเปิดกิจการ/กิจกรรม ใน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 ไม่ได้เป็นมาตรการบังคับ แต่ขอความร่วมมือ เป็นการนำร่อง ในจังหวัด พื้นที่ หรือกิจการ สถานประกอบการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการตามมาตรการได้ทันที

สำหรับ แนวปฎิบัติของมาตรการองค์กรด้วยหลัก COVID-Free Setting protocol ต้องประกอบด้วย

COVID-Free Environment : จะต้องดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม ต้องมีการระบายอาการ สุขอนามัยที่เหมาะสม สะอาดปลอดภัย และต้องเว้นระยะห่าง

COVID-Free Personnel :มาตรการในส่วนของผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ พนักงาน จะต้องมีการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ซึ่งจะมีการเร่งรัดให้ทุกคนได้รับวัคซีนครอบคลุม 2 เข็มมากที่สุด

COVID-Free Customer : ลูกค้า ผู้ใช้บริการเข้าร้านไหน ต้องร่วมมือกับมาตรการตามร้านนั้นๆ และลูกต้องมี Green Card (วัคซีนครบตามเกณฑ์) Yellow Card (เคยติดเชื้อ หรือ ATK เป็นลบภายใน 7 วัน)

ทั้งนี้ ในเดือนก.ย.นี้ ขอให้ทุกๆ จังหวัดเร่งดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว และในเดือนนี้เป็นเสมือนการเตรียมพร้อมการดำเนินการมาตรการต่างๆ ซึ่งคาดว่า 1 ต.ค. จะเห็นความพร้อมอย่างชัดเจนมากขึ้น อันนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างปลอดภัย จึงขอให้ผู้ประกอบการและจังหวัดศึกษาข้อปฎิบัติในมาตรการต่างๆ ซึ่งในส่วนของการฉีดวัคซีนโควิด และตรวจ ATK นั้น ในบางจังหวัดอาจจะยังมีข้อจำกัด ซึ่งในส่วนจังหวัดต่างๆ สามารถกำหนดอาชีพ กลุ่มคนที่จะให้บริการได้ ก็พิจารณาตามบริบทของแต่ละจังหวัดได้

พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า มาตรการดังกล่าว ทางศบค.ได้ย้ำกับทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าต้องดำเนินการให้ผู้ประกอบการ และประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และทางจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถปรับบริบทตามพื้นที่ ตามสถานการณ์ได้ ดังนั้น ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดทำมาตรการ Smart Control and Living with Covid-19 ทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และประชาชนต้องตระหนักและดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มีการถามกันว่า กรณีที่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้แล้ว สามารถเล่นดนตรีได้ด้วยหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่า ช่วง 14 วันแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ยังไม่อนุญาต เพราะกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าเป็นการรวมกลุ่มคน ถ้าเป็นปกติรับประทานอาหารเสร็จก็จะกลับบ้าน แต่หากมีการเล่นดนตรีก็จะทำให้นั่งกันยาวนานขึ้น นักดนตรีจะต้องเล่นกันหลายร้านขึ้น ศปก.ศบค.จึงเน้นย้ำมาตรการครอบจักรวาลอย่างเคร่งครัด และรออีก 2 สัปดาห์หากสถานการณ์ดีขึ้น การเกิดกิจการ กิจกรรมต่างๆ ก็จะสามารถทำได้สะดวกมากขึ้น มีข้อผ่อนผันได้มากขึ้น ดังนั้น ใน 2 สัปดาห์นี้อะไรยังไม่จำเป็นหรือการเดินทางที่ยังสามารถรอได้ก็ขอให้รอ หรือขณะนี้ไปตัดผมเฉยๆ โดยมีการนัดหมายล่วงหน้าในช่วงเวลาที่กระชับได้เร็วที่สุดก็ยังสามารถทำได้อย่างปลอดภัย โดยตอนนี้ยังมีการขยายเวลาทำผมให้อยู่ในร้านได้ 2 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งอีก 2 สัปดาห์เราคงได้เห็นมาตรการที่ผ่อนคลายมากขึ้น