ตรึงกำลังชายแดนใต้ปิดตายช่องทางธรรมชาติตลอดแนว95กม.
กองกำลังเทพสตรีเสริมกำลังป้องกันชายแดนสั่งปิดตายช่องทางธรรมชาติทั้งทางบกและทางน้ำตลอดระยะทาง 95 กิโลเมตรห้ามลักลอบเข้าออกโดยเด็ดขาดรับมือมาเลเซียล็อคดาวน์ประเทศคุมโควิดเริ่ม 1 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ตรวจเยี่ยมชุดเฝ้าตรวจชายแดนตำรวจตระเวณชายแดน และกองร้อยป้องกันชายแดน ที่ 4407-4414 ด้านจ.นราธิวาสรับผิดชอบดูแลพื้นที่ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.สุไหงโกลก และ อ.ตากใบ โดยเน้นย้ำการดูแลป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย รับมือการล็อกดาวน์ของประเทศมาเลเซีย พร้อมสั่งปรับเปลี่ยนยุทธวิธี ประสานการจัดกำลังให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ยังเป็นช่องว่างหให้จัดกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตชด. ทหารพราน ลาดตระเวนร่วม พร้อมจัดชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ลาดตระเวนเดินเท้าเลาะชายแดนทั้งทางบก และทางน้ำ สกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบข้ามผ่านช่องทางธรรมชาติโดยเด็ดขาด
พล.ต.ศานติ กล่าวว่า การดูแลชายแดนในขณะนี้ให้เน้นปฏิบัติการเชิงรุกตามข้อสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ให้บริหารจัดการกำลังร่วม 3 ฝ่าย ทั้ง ทหาร ทหารพราน และ ตชด. เพื่อป้องกันชายแดนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส ในพื้นที่ อ แว้ง อ.สุไหงโกลก และ อ.ตากใบ ถือเป็นพื้นที่แนวชายแดนไทย -มาเลเซียที่มีจุดผ่อนปรน และท่าข้ามธรรมชาติจำนวนมาก ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด - 19 แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านริมลำน้ำ เพื่อยกเรือขึ้นฝั่ง ถอดเครื่องยนต์ ป้องกันการใช้ไปรับ- ส่งคนจากฝั่งมาเลเซียกลับมา โดยเฉพาะบริเวณด่านบ้านน้ำตก และใต้สะพานด่านศุลกากรสุไหงโกลก ที่มักพบที่มีการแอบลักลอบมากที่สุด
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ประเทศมาเลเซียจะล็อคดาวน์ทั่วประเทศ ทำให้ทหารมาเลเซียมีความเข้มงวด ในการเข้า-ออกประเทศมากขึ้น ตอนนี้ทางฝั่งไทยจำเป็นต้องปิดตายช่องทางธรรมชาติ ห้ามเข้า- ออกโดยเด็ดขาด หากจะเข้ามาต้องมาทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ถ้าหลุดมาก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการกักกันโรค วิถีชีวิตของชาวบ้านเดิมก่อนจะมีโควิดระบาดจะมีการข้ามไปมาเพื่อกรีดยางฝั่งมาเลเซีย แต่ปัจจุบันไม่สามารถไปได้ ต้องประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจสร้างความตระหนักรู้ให้กับชุมชน ทั้งผู้นำศาสนา ผู้ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่และให้ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม


