posttoday

ศบค. ห่วงติดเชื้อแคมป์ก่อสร้าง ทำโควิด กทม.ลาม แนะใช้ "โมเดลสมุทรสาคร"คุมต่างด้าวติดเชื้อ

20 พฤษภาคม 2564

ศบค. กังวล การติดเชื้อในแคมป์คนงานก่อสร้าง ทำโควิด กทม.ลามไม่หยุด มี 409 แห่งใน 50 เขตทั่วกรุง คนงานรวมกว่า 6.2 หมื่นคน ล่าสุดพบคลัสเตอร์ใหม่ในเขตบางพลัด เสนอกทม.ใช้ “โมเดลสมุทรสาคร”ตั้ง “แคมป์ Quarantine” คุมต่างด้าวติดโควิด

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่กทม. ว่า จากการรายงานของกทม. ล่าสุด พบว่ามีคลัสเตอร์ที่เกิดการระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ถึง 36 คลัสเตอร์ กระจายใน 25 เขต ในจำนวนนี้ มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด 23 คลัสเตอร์ โดยมีคลัสเตอร์ใหม่ล่าสุด คือ แคมป์ก่อสร้าง บริษัทแสงฟ้า เขตบางพลัด

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. มีความกังวลเกี่ยวกับคลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับแคมป์คนงานก่อสร้างในเขตกทม. จาก ข้อมูล วันที่ 17 พ.ค. 64 พบว่ามีแคมป์คนงานก่อสร้างอยู่ในกทม. ครบทั้ง 50 เขต รวม 409 แห่ง มีคนงานทั้งหมด 62,169 คน เป็นคนไทย 26,134 คน ต่างด้าว 36,035 คน มีแคมป์คนงานที่เป็นคลัสเตอร์ต้องเฝ้าระวังสูงสุด ถึง 4 แคมป์ คือ แคมป์คนงานก่อสร้าง เขตหลักสี่ , แคมป์ก่อสร้าง เขตบางคอแหลม , แคมป์ก่อสร้าง เขตดอนเมือง และที่พักคนงานก่อสร้าง เขตคลองเตย

ศบค. ห่วงติดเชื้อแคมป์ก่อสร้าง ทำโควิด กทม.ลาม แนะใช้ "โมเดลสมุทรสาคร"คุมต่างด้าวติดเชื้อ

ที่ประชุม ศบค. จึงสั่งให้กรุงเทพมหานคร เพิ่มมาตรการเข้มงวดกับแคมป์ก่อสร้างเหล่านี้ โดยให้อำนาจผู้อำนวยการเขตแต่ละเขตไปบริหารจัดการสถานการณ์ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ทั้งเรื่องการรักษาสุขอนามัยภายในแคมป์หรือที่พักของคนงานก่อสร้าง ไม่ให้แออัดหรือมีการรวมกลุ่มกัน ในสถานที่ก่อสร้างหรือสถานที่ทำงานก็ต้องมีการรักษาสุขอนามัย เช่น งดดื่มน้ำจากแก้วหรือกระติกเดียวกัน งดการรวมกลุ่ม งดการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างแคมป์ และคุมเข้มเรื่องแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฏหมาย เนื่องจากข้อมูลของแรงงานต่างด้าวในกทม.และปริมณฑล พบว่าแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย มี 1,318641 คน และที่ไม่ถูกกฎหมาย ก็มีถึงหลักล้านเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นถ้าไม่จัดการอะไร คนเหล่านี้จะทำให้เป็นประเด็นปัญหา คือ1. แรงงานที่ผิดกฎหมายจะไม่อยู่นิ่ง เขาจะหลบหนี และเคลื่อนย้ายตัวเองตลอดเวลา 2. จะไปอยู่กับคนที่ถูกกฎหมาย เกาะกลุ่มรวมกัน และจะไปทำงานย้ายจุดไปเรื่อยๆ 3. มีที่พักที่แออัด นอนที่เดียวกันในพื้นที่แคบๆ กิน นอน ด้วยกัน ในที่จำกัด เพราะฉะนั้น 3 ปัจจัยนี้จะนำมาสู่กันควบคุมโรคได้ยาก

ดังนั้น คณะกรรมการที่ปรึกษาของศบค. จึงเสนอจะต้องให้มีศูนย์คัดแยกผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งเราได้เรียนรู้มาจากทางจ.สมุทรสาครแล้ว ซึ่งเขาควรจะได้พื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งอาจะใช้ มีคำพูด เช่นอาจเรียกว่าเป็น แคมป์ QUARANTINE

"ตัวอย่างที่พูดคุยกันวันนี้คือโรงพยาบาลสนามซึ่งเกิดขึ้นที่จ.ปทุมธานี คือเอาตลาดเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาปรับปรุง แล้วให้คนที่เป็นต่างด้าวมาอยู่ด้วยกันตรงนี้ แล้วชุมชนก็เป็นผู้ดูแลร่วมกัน มีรั้วรอบมิดชิด มีการส่งข้าวส่งน้ำ เพราะคนพวกนี้ทำงานอยู่ตรงนั้น และก็รู้จักกันในชุมชนทั้งสิ้น"

ทั้งนี้โมเดลอย่างนี้ กทม.ควรจะต้องรีบทำ เพราะวันหนึ่งที่มีผู้ป่วยเพิ่มกันมา 300-400 คน จากการตรวจเชิงรุก มีที่นอนให้เขา แยกออกมาจากชุมชนให้ได้ และ 2. ในเชิงของทางกฎหมาย ให้มีมาตรการรองรับ ขยายนิรโทษกรรม ให้เขาขึ้นทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เขาได้เข้าสู่ระบบการจ้างงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ข่าวล่าสุด

เปิดคำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ถ้อยแถลงร่วม GBC ไทย-กัมพูชา