"แรงงาน"ยัน ฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตน ม.33 มิ.ย.นี้ เริ่มกทม.ก่อน
รมว.แรงงาน เผย ผู้ประกันตนมาตรา33 จะได้ฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เริ่มจากกทม. ส่วน 9 จังหวัดอุตสาหกรรมเข้มรอเดือน กค. ประสานนายจ้างที่ส่งกลับแบบสำรวจ โดยผู้ประกันตนไม่ต้องลงทะเบียนหมอพร้อม เชื่อมั่นคลุมคลัสเตอร์อุตสาหกรรมได้
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 64 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงแรงงานกระจายวัคซีนให้ผู้ใช้แรงงานที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานประกันสังคมได้สำรวจสอบถามไปยังผู้ประกอบการถึงจำนวนพนักงานที่ต้องการรับวัคซีน ที่จะเริ่มบริการฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิย.นี้ในพื้นที่กรุงเทพ โดยกระจาย 45 จุด โดยมีโรงพยาบาลที่อยู่ในโครงการประกันสังคม 20 แห่ง ที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ดูแลอำนวยการ โดยมีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ทั้งการกำหนดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้พื้นที่แยกจากพื้นที่บริการของทางกรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน สำหรับพื้นที่ปริมณฑล และพื้นที่อุตสาหกรรมเข้มข้น เช่นระยอง ชลบุรี อยุธยา รวม9 จังหวัด จะเริ่มในเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นจะเป็นผู้ประกันตนในจังหวัดอื่นๆต่อไป
รมว.แรงงานกล่าวถึงเหตุผลที่เริ่มฉีดในพื้นที่กรุงเทพก่อน เนื่องจากกรุงเทพเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีการแพร่ระบาดสูง อีกทั้งผู้ประกันตนที่อยู่ในกรุงเทพมีมากถึง3.7 ล้านคน แจ้งความต้องการรับวัคซีน 2.1 ล้านคน คิดเห็นร้อยละ 78 ซึ่งกรุงเทพถือเป็นศูนย์กลางของธุรกิจที่เปรียบเหมือนเป็นไข่แดง จากนั้นจะจะฉีดให้กับพื้นที่ไข่ขาว ที่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม จังหวัดเศรษฐกิจที่มีGPDสูง และขยายไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น
พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมในติดตามการช่วยเหลือแก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและคณะผู้บริหารเข้าร่วมเช่นนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน โดยที่ประชุมได้มีการรายงานความพร้อมการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตน โดยไม่ต้องลงทะเบียนหมอพร้อม โดยทางกระทรวงสาธารณสุขจัดโควตาวัคซีนให้กระทรวงแรงงานบริหารกระจายยังผู้ประกันตนมาตรา 33 มีประมาณ 11 ล้านคน ทั้งนี้จะได้มีการประสานแจ้งผู้ประกอบถึงวันที่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการแต่ละแห่งจะได้รับวัคซีนวัน เวลา สถานที่ตามที่แจ้งให้กับผู้ประกอบการทราบต่อไป
รมว.แรงงานกล่าวอย่างมั่นใจว่าคลัสเตอร์อุตสาหกรรม เราเชื่อมั่นว่าควบคุม ปกป้องได้ โดยเรามีการทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด อีกทั้งการที่กระทรวงแรงงานเร่งทำงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบดโควิด ที่เริ่มตั้งแต่จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ประกันตน ที่มีความเสี่ยงสูง ที่อยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ ที่มีเข้ารับการตรวจร่วม 7 หมื่นคน พบผู้ติดเชื้อประมาณ 1000 คนคิดเห็นร้อยละ 2 โดยจัดพื้นที่ให้ผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาครบถ้วน นอกจากนี้จัดตั้งหน่วยคัดกรองในลักษณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดอุตสาหกรรมเช่นอยุธยา ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง ที่ผู้ประกอบการชื่นชมว่าแม้ทางผู้ประกอบการได้มีมาตรการที่เข้มแล้ว แต่ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อประปราย แต่ทางผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายมากมาย


