ศาลไม่ให้ประกัน "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" หวั่นหลบหนี-ยุ่งกับหลักฐาน

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.64 พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังแรก นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต่อศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก

ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 วรรคแรก, พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 กรณีกล่าวหาว่าระหว่างวันที่ 12 ธ.ค.63 - 17 ก.พ.64 มีพฤติการณ์ร่วมกันประกาศโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนธุรกิจซื้อ-ขาย-เช่า กระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหาย 21,583,846 บาทชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

โดยการยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พนักงานสอบสวนขอฝากขัง เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 18-29 พ.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ยังจะต้องสอบพยาน จำนวน 30 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ พร้อมทั้งประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา มาประกอบสำนวนการสอบสวน

ในการฝากขังพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงจึงเกรงว่าหากให้ประกันผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี อีกทั้งพบว่าผู้ต้องหามีตำแหน่งเป็นผู้บริหารและมีอำนาจจัดการในบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ การปล่อยชั่วคราวจึงอาจจะทำให้เสียหายต่อรูปคดีได้และอาจทำให้ผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมทั้งอาจทำให้ประชาชนซึ่งตกเป็นผู้เสียหายในคดีนี้เกิดความสับสน เนื่องจากผู้ต้องหาได้ติดต่อหรือชักจูงให้สัญญากับผู้เสียหายว่าสามารถนำเงินมาชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายได้

ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลัง ผู้ต้องหาจึงได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท

ขณะที่ศาลอาญา พิเคราะห์แล้ว พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง ความเสียหายมีจำนวนมาก ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา จะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวแล้ว ผู้ต้องหาก็ต้องถูกควบคุมตัวไว้ระหว่างการฝากขังต่อไป