"สุชาติ"เชื่อคณะปฏิวัติเมียนมาอยู่ไม่ได้ หลังประชาชนลุกขึ้นต่อต้าน
"สุชาติ ธาดาธำรงเวช" เชื่อการปฏิวัติในเมียนมาไม่น่าจะอยู่ได้ หลังประชาชนลุกขึ้นต่อต้าน ชี้วันนี้เวลาของระบบศักดินา อำมาตย์ ขุนนาง ขุนศึก ได้หมดลงแล้ว
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต?ร?มว.คลัง? และอดีต?ร?มว.ศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อเหตุรัฐประหารในเมียนมาดังนี้
การปฏิวัติในเมียนมา ไม่น่าจะ?อยู่ได้
ชาวเมียนมา?มากมาย? หลากหลายสาขาอาชีพ ชู? 3 นิ้ว? อย่างเปิดเผย "ถ้า?ไม่สู้? ก็ต้องอยู่อย่างไทย"
ได้เกิดการปฏิวัติในเมียนมาอีกแล้ว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยอ้างเหตุผลว่าการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ มีการร้องเรียน พวกนายทหารไม่กี่คนจึงต้องปฏิวัติเข้ายึดอำนาจจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy: NLD) นำโดย อองซาน ซูจี ซึ่งเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกตั้งมาอย่างล้นหลามทั้ง 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และสภาประชาชาติ
การเลือกตั้งคราวนี้ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 พรรค NLD ได้จำนวน สส.และ สว.มากกว่าคราวที่แล้วอีกด้วย คือได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 258 ที่นั่ง จากจำนวนที่ต้องเลือกตั้ง 330 ที่นั่ง (ทหารแต่งตั้งอีก 25% คือ 110 ที่นั่ง รวมทั้งหมดเป็น 440 ที่นั่ง) สภาสูงหรือสภาประชาชาติได้ 138 ที่นั่ง จากจำนวนที่ต้องเลือกตั้ง 168 ที่นั่ง (ทหารแต่งตั้งอีก 25% คือ 56 ที่นั่ง รวมทั้งหมดเป็น 224 ที่นั่ง) ทั้ง 2 สภา พรรค NLD มีเสียงสนับสนุนประมาณ 80% "เขาจะโกงการเลือกตั้งไปทำไม"
พวกนายทหารไม่กี่คนในประเทศด้อยพัฒนา มักชอบเข้าไปแทรกแซงและล้มการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ชอบอ้างโน่นอ้างนี่ แบบโง่เขลา ไม่สมเหตุสมผล ไม่น่าเชื่อถือ ฟังแล้วน่าขบขัน จากนั้นทำการยึดอำนาจการปกครอง เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทำให้ประชาชนยากจน ประเทศด้อยพัฒนาและล้าหลัง
พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ซึ่งอ้างว่าสนิทสนมกับพลเอกเปรมฯ ถึงขั้นเรียกตัวเองเป็นบุตรบุญธรรม ไม่มีความรู้ความสามารถอะไร กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน และจากรายได้มากมายจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ ของเมียนมา แบบคอร์รัปชันมาโดยตลอด ได้ประกาศยึดอำนาจ อ้างรัฐธรรมนูญเมียนมา มาตรา 144 ว่าเขาทำได้ เขาได้จับสส. และ?สว.มากมาย จากพรรค NLD รวมทั้ง อองซาน ซูจี ไปควบคุมตัว อ้างข้อหาไร้สาระไร้เหตุผล ทำตัวเป็นอมนุษย์ พวกนี้ตายไปก็ต้องลงนรกลงอบายก่อนตายก็เจ็บไข้ได้ป่วย เป็นโรคร้ายแรงดังที่เห็นๆ กันอยู่
การปฏิวัติโดยอำมาตย์ ขุนศึก ศักดินาที่เกิดขึ้นในโลก ไม่ว่าประเทศใด ล้วนทำให้ประเทศถอยหลังและล้าหลังอย่างมากมาย ดังที่เห็นกันในประวัติศาสตร์ พวกเหล่านี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง ให้สามารถใช้อำนาจเข่นฆ่าและกดขี่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ปิดกั้นการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ตัวเองอยู่ได้ เพียงเพื่อรักษาระบบขุนศึกขุนนางศักดินาต่อไป ให้เหมือนสมัยอยุธยา-อิรวดี
พวกปฏิวัติขุนนางขุนศึกเหล่านี้ ไม่ได้คำนึงถึงประชาชนที่ยากจนข้นแค้น ใช้อาวุธที่ซื้อด้วยเงินภาษีอากรประชาชน มากดขี่ข่มเหงประชาชน ทำให้ประเทศยากจนล้าหลังนับแต่ เกาหลีเหนือ เมียนมา ไทย แถบตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และแอฟริกา
เห็นทีการปฏิวัติในเมียนมาคราวนี้ น่าจะสำเร็จได้ยากและดำรงอยู่ได้ยากมาก พวกปฏิวัติจึงรีบเร่งออกมาสัญญาว่าจะอยู่เพียง 1 ปี แต่ยังไม่เห็นแต่งเป็นเพลงสัญญาออกมา ได้เริ่มเกณฑ์ลูกสมุน ออกมาแสดงความดีใจ
แต่ที่จะเป็นปัญหาอย่างมากในเมียนมาคราวนี้ ก็คือการปฏิวัติหนนี้เป็นเรื่องของขุนศึกล้วนๆ ไม่กี่คน ไม่มีระบบศักดินารองรับ ประชาชนเกือบ 100% เกลียดชังพวกเหล่านี้มาก่อน จึงน่าสงสัยว่า พวกเหล่านี้จะอยู่ได้อย่างไร อยู่ได้นานเท่าไร ได้วางแผนหนีไปประเทศอื่นแล้วหรือยัง จะมีประเทศไหนยินดีต้อนรับพวกเหล่านี้อีกไหม
เมื่อปี 2555 จนถึงปัจุบัน นายพลมิน อ่องหล่าย และพวก ก็ได้ทารุณกรรมชนกลุ่มน้อย โรฮิงญา เสียชีวิตไปมากมาย โดยอ้างว่ามีการก่อการร้าย ในแถบรัฐยะไข่ ตะวันตกของเมียนมา ทำให้ อองซาน ซูจี ในฐานะผู้นำประเทศ ต้องรับเคราะห์ถูกตำหนิโดยชาวโลกไปด้วย
ความจริงพวกนายพลเหล่านี้ อยู่ด้วยบารมีของ อองซาน ซูจี ก็น่าจะดีอยู่แล้ว ที่ท่านซูจี ยอมอดทนรับรัฐธรรมนูญทหาร ที่เขียนขึ้นมาอย่างน่าเกลียด มีทหารเป็นถึงรองประธานาธิบดีโดยตำแหน่ง และมีทหารคุมกระทรวงสำคัญๆ ที่มีการคอร์รัปชันกันมากมาย นอกจากนี้ ยังเขียนรัฐธรรมนูญให้มีทหารในสภาฯ ถึง 25% ซึ่งไม่มีเหตุผลรองรับ ดูน่าขายหน้า
นายพลเหล่านี้ กำลังจะเกษียณอายุราชการอยู่แล้ว จะได้รับเงินบำนาญมากมาย ไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจได้รับเงินต่ออีก สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย กลับมาสร้างบาปสร้างเวรกรรมให้ตัวเอง ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง กลัวคนจะมาทำร้าย กลัวคนมาลอบสังหาร ไปไหนมาไหนต้องนั่งรถหุ้มเกราะกันกระสุน แต่ละวันกลุ้มอกกลุ้มใจ ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ แน่นอนเมื่อคนเหล่านี้ตายไป ก็ต้องลงนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเป็นเวลาอีกนานแสนนาน
ในสัปดาห์ถัดๆ ไป เราจะเห็นประชาชนเมียนมา ทั้งในและต่างประเทศออกมาต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารครั้งนี้มากมายขึ้นเรื่อย ๆ ชาวเมียนมาและประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลก จะออกมาผนึกกำลังต่อสู้กับพวกล้าหลังไดโนเสาร์เต่าล้านปี ตอนนี้ เริ่มเห็นคณะแพทย์พยาบาลออกมาอารยะขัดขืน ไม่ทำตามคำสั่งของพวกปฏิวัติแล้ว มีพลทหารจำนวนมากถอดเครื่องแบบทิ้งกลางถนน มีกลุ่มต่างๆ ทั้งประชาชน ผู้ใช้แรงงาน นักเรียนนักศึกษา ดารา? พิธีกร เอกชน ข้ารัฐการ ออกมามากมาย? ในทุกๆ รัฐ ชูสามนิ้วไม่ยอมรับการรัฐประหารอย่างเปิดเผย "ถ้าไม่สู้? ก็ต้องอยู่อย่างไทย"
ได้ข่าวว่าพวกนายพลปฏิวัติ?พม่า ได้แอบส่งลูกเมีย เงินทองมากมาย? ไปรัสเซียแล้ว เพื่อเตรียมหนี ก็ไหนว่าแน่ แท้จริงก็คือโจรปล้นประเทศ เที่ยวสั่งปิดโซเชียล ปิดเวป? ปิดการสื่อสารเอาตำรวจทหารจับประชาชนผู้ประท้วงอย่างสันติ เป็นว่าเล่น?
คราวนี้มวลชนเมียนมา คงได้มีโอกาสจับเป็นพวกเหล่านี้ เอาขึ้นศาลประชาชน, ขึ้นศาลโลก เพราะระบบศักดินาของเมียนมาได้สิ้นสุดไปนานแล้ว ดูตัวอย่างได้จาก การตายของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย, อีดี อามิน ผู้นำเผด็จการยูกันดา, ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำเผด็จการแห่งอิรัก, นายพลออกุสโต ปิโนเชต์ ประธานาธิบดีชิลีในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร เป็นต้นที่เขียนมานี้ ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับผู้ที่ยังลุ่มหลงมัวเมาแต่อำนาจ ที่ทำการปฏิวัติรัฐประหารสร้างแต่บาปกรรมให้ประชาชน จะได้ตาสว่างมีดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาบ้าง
การปฏิวัติที่มีระบบเก่ารองรับ อาจอยู่ได้นานหน่อย แต่หากเป็นการปฏิวัติโดยทหารล้วนๆ ก็จะอยู่ไม่ได้ ต้องมีอันเป็นไปในวันนี้พรุ่งนี้ ระหว่างที่พยายามจะดำรงอยู่ ประชาชนก็เกลียดชัง ด่าว่าเป็นเดรัจฉาน เปรต สัตว์นรก อสุรกาย เมื่อตายไปก็ไปเป็นอย่างนั้นจริงๆ พวกนี้ทำอะไรก็ไม่มีผลบุญ เพราะเริ่มต้นจากบาปที่ปฏิวัติมา จึงขอให้ รีบคืนอำนาจและความยุติธรรมให้ประชาชน ให้ประเทศได้มีระบบการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน วันนี้เวลาของระบบศักดินา อำมาตย์ ขุนนาง ขุนศึก ได้หมดลงแล้ว


