ตรึงราคาเป็นธรรม

มาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลด้วยการตรึงราคาสินค้า ท่ามกลางต้นทุนผลิตจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยชาวบ้านช่วงที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์ไม่ปกติ เศรษฐกิจชะลอตัวจากจลาจลการเมือง หรือภัยพิบัติตามธรรมชาติ น้ำท่วมหนัก มาตรการดังกล่าวนับเป็นเรื่องดี ที่เมื่อยามวิกฤตทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือกัน เพื่อให้ภาพรวมทั้งหมดสามารถเดินหน้าต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม หากมาตรการตรึงราคาสินค้า มีการต่ออายุมาตรการออกไปต่อเนื่อง จนกลายเป็นบิดเบือนกลไก เรื่องนี้รัฐบาลก็ทราบดีว่า ถ้าบิดเบือนนานไปจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยผลดีที่เกิดขึ้นแน่ๆ คือ ทางการเมือง ที่รัฐบาลย่อมสามารถนำเรื่องนี้ไปสร้างคะแนนเสียงให้ได้มากพอควร ในการบีบให้สินค้าหรือบริการตรึงราคาได้ยาวนานจาก 6 เดือน ตรึงไปอีก 3 เดือน ตรึงไปอีกเป็นช่วงๆ

เมื่อมองผิวเผิน ดูเหมือนว่ารัฐบาลบริหารงานเก่ง สามารถรู้ทันผู้ประกอบการ บีบให้ขายสินค้าบริการในกำไรที่ไม่ขูดรีดมาก แต่ในทางปฏิบัติ รัฐบาลแทบจะไม่มีมาตรการลงไปตรวจสอบราคาสินค้าหรือบริการที่สั่งให้ตรึงราคา มีการลดคุณภาพหรือปริมาณต่อยูนิตลงไป เพื่อให้มองผิวเผินแล้วยังขายราคาเดิม เพราะเป้าหมายการลงทุนหรือการค้า ย่อมต้องการหากำไรมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี ดังนั้นเมื่อโดนคุมราคาขายต่อชิ้น ทางออกเพื่อยังให้บริษัทกำไรเพิ่มต่อเนื่อง คือ การขึ้นราคาทางอ้อม ลดขนาดหรือลดคุณภาพ ที่รัฐบาลจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เกิดผลเสียเมื่อมองเป็นภาพรวม

ผลดังกล่าวจึงเห็นว่า รัฐบาลควรจะบริหารราคาสินค้าหรือบริการ โดยพิจารณาจากภาพรวมของการประกอบการ ซึ่งตามหลักที่ทราบกัน คือ ผู้บริโภคหรือชาวบ้านจ่ายเงินซื้อในราคาที่สมเหตุสมผล บริษัทมีกำไรอยู่ได้

เรื่องนี้ดูว่ากระทรวงพาณิชย์ กับนายกรัฐมนตรี ก็เข้าใจดีอยู่ ว่าการจะให้ปรับขึ้นราคาสินค้าหรือบริการ ควรดูจากต้นทุนสินค้าที่ปรับขึ้น เช่น จากต้นทุนราคาน้ำมัน ต้นทุนการเงินดอกเบี้ย ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน และที่สำคัญควรให้ลดราคาด้วย หากต้นทุนต่ำลง เช่น ต้นทุนถูกลงจากค่าเงินบาทเทียบเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้น หรือการได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้าตามข้อตกลงต่างๆ ที่ทำให้ภาษีนำเข้าวัตถุดิบหรือสินค้าถูกลง ราคาสินค้าที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวก็ควรต่ำลงด้วย ส่วนความสามารถลดต้นทุนจากการบริหารจัดการของแต่ละบริษัท สิ่งนี้จะส่งผลทำให้ราคาสินค้าหรือบริการถูกลงได้ หากกรอบกติกาที่รัฐสร้างขึ้น อำนวยให้เกิดการแข่งขันเสรีเป็นธรรม

ถ้ารัฐบาลบริหารการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าหรือบริการ ให้ภาพรวมกลไกขับเคลื่อนสมบูรณ์ ลดการหวังผลทางการเมืองลงไปบ้าง ราคาสินค้าก็จะเป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้