9 สน.นำร่องใช้เครื่องออกใบสั่งออนไลน์

"ตำรวจจราจร"9 สน.นำร่องเครื่องออกใบสั่งออนไลน์ เข้าจุดลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่แล้ว " รอง ผบช.น. " พร้อมแจงภาพรวมวันแรกเย็นนี้  

วันที่ 7 ธ.ค. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร  กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลนำเครื่องออกใบสั่งออนไลน์ หรืออี-ทิกเก็ตจำนวน  20 เครื่องของสำนักงานตรำวจแห่งชาติออกมาใช้ควบคุมจัดการจราจรบนท้องถนนในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5

เครื่องออกใบสั่งออนไลน์

"โครงการนำร่อง  9 สน.คือ   สน.วัดพระยาไกร  สน.ลุมพินี  สน.คลองตัน สน.บางโพงพาง  สน.ทุ่งมหาเมฆ  สน.พระโขนง สน.ท่าเรือ สน.ทองหล่อ สน.บางนา และอีก 1 กองบังคับการ (งานตรวจพิเศษกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)ซึ่งผ่านการฝึกฝนเรียนรู้วิธีปฏิบัติมาอย่างช่ำชอง  ขณะนี้ลงพื้นที่จริงกำลังปฏิบัติหน้าที่กันอยู่    ซึ่งในช่วงเย็นจะสรุปภาพรวมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ต่างๆอีกครั้งพร้อมสอบถามอุปสรรคปัญหาข้อขัดข้องพร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการใช้เครื่อง " รอง ผบช.น.กล่าว

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า  ที่เหลืออีก 10 เครื่อง ใช้ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี สถานีตำรวจภูธรเมืองปทุมธานี,สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต,สถานีตำรวจภูธรสวนพริกไทย,สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง, สถานีตำรวจภูธรคลองห้า, สถานีตำรวจภูธรธัญบุรี, สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาฯ,สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา, สถานีตำรวจภูธรคูคต, สถานีตำรวจภูธรคลองสิบสอง,สถานีตำรวจภูธรลาดหลุมแก้ว, สถานีตำรวจภูธรคูบางหลวง, สถานีตำรวจภูธรสามโคก และสถานีตำรวจภูธรหนองเสือ ผู้ขับขี่ที่ถูกออกใบสั่งด้วยเครื่องออนไลน์ ต้องนำใบสั่งไปชำระค่าปรับ สน.ท้องที่ที่ถูกออกใบสั่งและชำระค่าปรับที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศกว่า 1,200 แห่งภายใน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระบบการออกใบสั่งจราจรออนไลน์(e-ticket)นี้อยู่ในโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือPOLIS ถือเป็นระบบเทคโนโลยีใหม่ที่มีความนิยมใช้งานในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ฯลฯโดย เครื่องออกใบสั่งจราจรออนไลน์มีลักษณะคล้ายกับเครื่องรูดบัตรเครดิตสามารถพกพาได้   สาเหตุที่จำเป็นต้องนำระบบการออกใบสั่งจราจรออนไลน์มาทดลองใช้  

เนื่องจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกได้บันทึกข้อตกลงร่วมกันว่า  จะจัดทำระบบเชื่อมโยงเพื่อบันทึกประวัติผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถและบันทึกคะแนนผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร จึงได้มอบหลักการให้ทาง สทส.ดูแล  เมื่อมีการคีย์ข้อมูลผู้กระทำผิดกฎจราจรที่จุดเกิดเหตุเข้ามาจะมีการบันทึกเข้าระบบและประมวลผลทันทีไม่ต้องกลับมาพิมพ์ซ้ำอีก

การเตรียมความพร้อมด้านซอฟต์แวร์และเครื่องออกใบสั่งจราจรออนไลน์พร้อมเครื่องพิมพ์เพื่อทดลองใช้งานนั้น ทางบริษัทซีดีจี ซิสเต็มส์จำกัด เป็นผู้จัดหาและพัฒนาโปรแกรมระบบงานจราจรเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ POLIS โดยระบบจะทำงานแบบออนไลน์ในการบันทึกประวัติ จัดเก็บข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลรถและข้อมูลผู้ขับขี่ได้ทันที รวมทั้งสามารถจัดทำสรุปรายงานการออกใบสั่งได้ตามความต้องการ

สำหรับขั้นตอนการทำงานของระบบการออกใบสั่งจราจรออนไลน์เมื่อเจ้าหน้าที่พบผู้กระทำผิดจะขอใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนมารูดที่เครื่อง เมื่อโชว์ข้อมูลแล้วเจ้าหน้าที่จะบันทึก ข้อมูลรถคือประเภทรถ เลขทะเบียนจังหวัด ข้อมูลผู้กระทำผิดคือ เลขประจำตัว ชื่อ สกุลข้อมูลข้อหาที่กระทำผิดและข้อมูลสถานที่คือ ถนน รหัสพื้นที่ ที่สามารถเลือกได้ในเครื่องไม่ต้องพิมพ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อตรวจสอบข้อมูลใบสั่งกับฐานข้อมูลระบบ POLIS และจะปรากฏบนจอเครื่องออกใบสั่งจราจรออนไลน์โดยอัตโนมัติ เมื่อเจ้าหน้าที่ยืนยันแล้วจะสั่งพิมพ์ใบสั่งจากเครื่องออนไลน์ ขนาดใบสั่งมีขนาดกว้าง 5.4 ซม. ยาว 35 ซม.มอบให้ผู้กระทำผิด โดยมี 2 ส่วน คือของผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดและของเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใช้เวลาในการดำเนินการไม่เกิน 1 นาที

นอกจากเครื่อง eticket จะมีประโยชน์ทางตรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้กระทำผิดในเรื่องของความสะดวกรวดเร็วแล้วยังสามารถตรวจจับเรื่องรถที่กระทำความผิดกฎหมายด้วยว่ามีการแจ้งหายไว้หรือไม่ หรือตรวจดูว่าผู้ขับขี่มีประวัติอาชญากรเคยถูกออกหมายจับไว้หรือไม่หรือรถคันดังกล่าวยี่ห้อ สีทะเบียน ตรงกับฐานข้อมูลหรือไม่ มีการปลอมแปลงหรือเปล่า ซึ่งที่จังหวัดปทุมธานีมีการใช้ข้อมูลออนไลน์อยู่แล้ว เวลามีผู้ถูกออกคำสั่งและไปเสียค่าปรับเมื่อคีย์ข้อมูลชื่อบุคคลเข้าไประบบจะสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่ารถคันนี้เคยมีการแจ้งหายหรือมีข้อมูลใดผิดปกติจะโชว์ที่เครื่องทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมาก