ประมงพื้นบ้านปิดปากน้ำตาปีขอพื้นที่เก็บหอยในทะเลเพิ่ม3,000เมตร

เมื่อวันที่ 11มิ.ย.63 เมื่อเวลา 14.00น.ที่ปากน้ำแม่น้ำตาปี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวประมงพื้นบ้านกลุ่มเก็บหอยแครงอ่าวบ้านดอน นำเรือประมงกว่า 50 ลำมาจอดลอยลำเรียงเป็นแถวปิดขวางกลางแม่น้ำตาปี อ้างว่า ไม่พอใจที่ทางราชการขอให้พ่อค้างดรับซื้อหอยแครงทำให้ไม่สามารถขายหอยที่จับได้ โดยมีนาวาเอกวศากร สุนทรนันท์ รอง ผอ.ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี และนายสุเชาว์ โทมุสิก ป้องกันจังหวัด นำเรือออกไปเจรจากว่า 1 ชั่วโมง ชาวบ้านเสนอขอเข้าทำกินในเขต 3,000 เมตร แต่นาวาเอกวศากรขอให้มาประชุมวันที่ 12 มิ.ย.63ชาวบ้านจึงยอมนำเรือกลับ

แกนนำชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า รู้มาตลอดที่นี้เป็นที่สาธารณะแต่ผู้มีอิทธิพลและผู้นำท้องถิ่นปกปิดและกีดกันเข้าไปไม่ได้ อ้างว่าเป็นที่มีสัมปทานและยึดมา10กว่าปี ซึ่งคอกหอยบางคอกไม่ให้เข้าและถูกไล่ยิง ที่รวมตัวออกมาปิดปากอ่าวเพราะไม่มีที่ทำกินแล้ว เมื่อเช้าจะไปจับหอยที่ ต.ลีเล็ด ถูกผู้ประกอบการคอกหอย 10 กว่ารายและ อ.ส.ขับไล่จึงขับเรือกลับออกมา

ด้านพลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.)ภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กล่าวว่า ทางศรชล.ภาค 2 จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินรื้อขนำที่ปลูกสร้างในอ่าวบ้านดอน ซึ่งจะให้ชาวประมงพื้นบ้านและผู้ประกอบการไปพูดคุยกันก่อน ถ้ารื้อถอนเสร็จแล้วจะต้องมีมาตรการใช้ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน

จากการสำรวจพื้นที่บริเวณอ่าวบ้านดอนในปี 2562 พบมีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะที่ไม่ได้รับอนุญาต ประมาณ 110,300 ไร่ แบ่งเป็น อ.เมือง 28,265 ไร่ อ.พุนพิน 23,036 ไร่ อ.กาญจนดิษฐ์ 23,378 ไร่ อ.ท่าฉาง 27,457 ไร่ และ อ.ไชยา 8,164 ไร่ โดยคณะทำงานแก้ไขปัญหาอ่าวบ้านดอนตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีข้อสรุปให้ดำเนินการตามแผนรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ ระยะที่ 1 สำรวจและร้องทุกข์กล่าวโทษในเขต อ.เมือง 90 หลัง อ.พุนพิน 70 หลังและวางแนวเขตตำบลที่ได้สำรวจเรียบร้อย ระยะที่ 2 ดำเนินการในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ 400 หลัง และระยะที่ 3 ใน อ.ไชยา 200 หลัง และ อ.ท่าฉาง 250 หลัง รวม 5 อำเภอ จำนวน 1,010 หลัง