"สว.ประภาศรี"ห่วงหมอ-ปชช.3จว.ใต้ติดโควิดแนะศบค.กำหนดยุทธศาสตร์แก้ไขเฉพาะ
ประภาศรี สมาชิกวุฒิสภา ห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ติดโควิด19 แนะรัฐฯ- ศบค.กำหนดยุทธศาสตร์แก้ไข เป็นการเฉพาะ ชวนบริษัทธุรกิจบริจาคช่วยเหลือใช้วิกฤตเป็นโอกาส ยุติความรุนแรงสู่สันติภาพ
เมื่อวันที่ 28 มี.ค.นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี เพราะต่างก็ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ต้องเข้ารับการรักษาในร.พ.และเก็บตัวดูอาการอยู่บ้าน ในส่วนของแพทย์และและบุคลากร เมื่อลดจำนวนลงก็ต้องมีบุคลากร จากร.พ.อื่นเข้ามาทดแทน งานจะหนักขึ้น นอกจากนี้ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายอย่าง สถานการณ์ร.พ.ค่อนข้างวิกฤต ยังดีที่ประชาชนช่วยบริจาคเงินเพื่อซื้อหน้ากาก ชุดPPEป้องกันการติดเชื้อ แต่ก็ไม่เพียงพอ
นางประภาศรี กล่าวว่า 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ที่เกิดความไม่สงบมานาน16ปีแล้ว รัฐบาลใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อความมั่นคง แต่ไฟใต้ก็ยังไม่มอดดับ ขณะนี้ไวรัสโควิดระบาดไปทั่วประเทศ รวมทั้ง สามจังหวัดชายแดนใต้ เกิดผลกระทบและความเดือดร้อนกับประชาชนเป็นอย่างมาก เห็นว่า การแก้ปัญหารัฐบาลควรกำหนดเป็นยุทธศาสตร์เฉพาะ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดย บูรณาการทุกภาคส่วนสนับสนุนสรรพกำลังอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ปล่อยให้หน่วยงานภาครัฐต่างคนต่างทำด้วยมาตรการปกติเหมือนจังหวัดอื่นๆ เพราะคนส่วนใหญ่ที่ สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม มีอัตลักษณ์ ภาษา และวิถีชีวิตตลอดทั้งการปฏิบัติตามหลักศาสนา
"มาตรการทางกฎหมาย การล็อกดาวน์ เข้มงวดต่างๆ การบังคับใช้และการลงโทษผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนดโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและพลเรือนต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง ตอบแสดงให้เห็นว่ามาจากความปรารถนาดีไม่ต้องการให้ติดเชื้อและแพร่เชื้อไวรัส เพราะถ้ารักษาไม่หายก็จะเสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวญาติพี่น้องที่ได้รับการแพร่เชื้อก็จะป่วยด้วย"
นางประภาศรี กล่าวอีกว่าวิกฤตไวรัสระบาดมาที่จังหวัดชายแดนใต้ ควรที่รัฐบาลและภาคส่วนต่างๆจะถือเป็นโอกาสที่จะร่วมมือกันนำไปสู่การยุติความขัดแย้งและความรุนแรง เกิดสันติภาพเหมือนที่เกิดขึ้นในอินโดนีเชียเมื่อปี2548 หลังเกิดภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ทำให้กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในรัฐอาเจะห์ ซึ่งได้รับสูญเสียจากสึนามิยอมเจรจาสันติภาพกับรัฐบาล ยุติการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ไวรัสระบาดจังหวัดชายแดนใต้ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ภาครัฐ ภาคธุรกิจ แพทย์ จะได้ร่วมกันแสดงให้ประชาชนเห็นว่า เราห่วงใยกันและไม่ทิ้งกัน