ตามล่ามิจฉาชีพอ้างเป็นทหารมาสืบราชการลับ ขอเช่าห้องพัก-ยืมเงินก่อนชิ่งหนี

เจ้าของหอพักเข้าแจ้งความเจอมิจฉาชีพอ้างเป็นทหารสืบราชการลับ มาเช่าหอพักพร้อมขอยืมเงินก่อนชิ่งหนี พบก่อเหตุแล้ว 3 แห่ง

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 ว่าที่ ร.ต.เอกลักษณ์ คันทะระ อายุ 33 ปี ผู้จัดการหอพักใน ชุมชนยิ่งยง ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีมิจฉาชีพเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างผอมสูง ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เข้ามาหาและขอเช่าห้องพักเป็นเวลา 1 เดือน โดยชายคนดังกล่าวระบุบว่า เป็นทหารฝ่ายข่าวกรอง ประจำค่ายทหารแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ลงมาปฏิบัติหน้าที่หาข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่อ.บ้านไผ่ จึงต้องการเช่าห้องพักเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนค่าเช่า ผู้บังคับบัญชาจะโอนเช้าบัญชีให้ทางหอพัก

"ด้วยความเกรงใจว่าเป็นทหารหน่วยข่าวกรอง จึงไม่ได้ขอชื่อที่อยู่ แต่ขอไลน์คนที่แอบอ้างมาพร้อมกับบอกว่าให้เอาเงินสดมาจ่าย หรือไม่ก็โอนผ่านพร้อมเพย์ แต่ชายคนดังกล่าวแจ้งว่าไม่มีเงินและยังจะขอยืมเงินอีก 2,000บาท แต่ไม่ได้ให้ไป แต่ให้เข้าพักที่ห้องพักเลขที่ 208 โดยบอกว่าหากผู้บังคับบัญชาโอนเงินมาให้ค่อยเอามาจ่าย ซึ่งเมื่อชายรายดังกล่าวเข้าพักที่ห้อง ผ่านไป 1 คืน ก็หายตัวไป ผ่านไปไม่นาน ก็ทราบว่า หอพักคุณยาย ในซอยประปา 1 ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มากนักก็โดนชายรูปร่าง ลักษณะเดียวกันอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรอง ขอเช่าห้องและขอยืมเงิน แต่ทางเจ้าของหอไม่ให้ จากนั้นก็หายตัวไปเช่นกัน"

ว่าที่ ร.ต.เอกลักษณ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุขึ้นที่หอพัก ชำนาญไพร ในชุมชนสมหวังสังวาล เขตเทศบาลเมืองย้านไผ่ ซึ่งที่หอพักดังกล่าวนั้นทราบว่า เจ้าของหอพักได้เสียเงินให้กับชายรายดังกล่าวไปประมาณ 1,900 บาท จึงได้เอาภาพโปรไฟล์ในไลน์ของชายรายดังกล่าวให้เจ้าของห้องเช่าทั้ง 2 แห่งดู ทุกคนยืนยันตรงกันว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกัน จึงอยากฝากเตือนให้เจ้าของห้องเช่าในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ ระวังภัยจากชายลักษณะดังกล่าวด้วย เพราะอาจจะไม่โชคดี อาจถูกทำไม่ดี หรือทำร้ายก็เป็นได้

ขณะที่ พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตร ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า มีผู้เสียหายในรายที่เสียเงินมาแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่ก็ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสผู้ชายรายนี้แล้วเช่นกัน เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่บ้านไผ่ หรืออำเภอใกล้เคียง เพราะมีการใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่ไปตามจุดต่างๆน่าจะเป็นคนที่รู้พื้นที่เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุด และตามเส้นทางที่น่าจะขับขี่รถผ่าน เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ในการที่จะจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป