เปิดคำรับสารภาพเอ็ม คลุมหัวเศรษฐีนี เล่นมือถือรอ จนหมดลมหายใจ

เชียงใหม่-เอ็มฆ่าชิงทรัพย์เศรษฐีนีสายบุญ สารภาพสิ้นทุกขั้นตอน วางแผนมาก่อนล่วงหน้า ญาติเผยผู้ตายไม่ขออโหสิกรรม ตำรวจเชื่อผู้ต้องหาลงมือทำคนเดียว

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รอง ผบก.สส.ภ 5 พร้อมผู้เกี่ยวข้องนำนายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร หรือ เอ็ม อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐีนี สายบุญ ถูกฆ่ายัดตู้เย็นโรยปูนทับอำพรางศพมาแถลงข่าว พร้อมของกลาง ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ คันที่คนร้ายซื้อและใช้หลบหนี , เสื้อผ้า , กระเป๋าเดินทาง , โทรศัพท์มือมือ และเงินสดจำนวนกว่า 1.2 ล้านบาท

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้รับสารภาพว่าลงมือทำคนเดียว เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน โดยใช้บัตร ATM ของผู้ตายไปกดเงินสดหลายครั้ง และหลายพื้นที่ จำนวนที่กดไปได้ราว 1.7 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดคืนได้ 1.2 ล้านบาท ส่วนที่ขาดหายไป คนร้ายได้นำไปซื้อรถจยย.,ทองคำหนัก 5 บาท , เช่าโรงแรม และใช้สอยอื่นๆระหว่างการหลบหนี ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ผู้ต้องหากับผู้ตายกันมาก่อน เพราะเป็นขับรถโดยสารสายเชียงใหม่-จอมทอง ผู้ตายเคยเรียกใช้บริการต่างๆหลายครั้ง

วันที่เข้าไปก่อเหตุ คือ วันที่ 11 ตุลาคม 2562 ได้ไปกดกริ่งหลายครั้ง แต่ผู้ตายไม่ยอมเปิดประตู เพราะปกติผู้ตายไม่รับใครเข้าบ้านอยู่แล้ว เนื่องจากจะปฏิบัติธรรมและมีโลกส่วนตัวสูง เมื่อผู้ตายเห็นว่า เป็นผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนรู้จักกันจึงเดินมาเปิดประตูให้ เมื่อผู้ต้องหาเข้าไปและลงมือชิงทรัพย์ผู้ตายด้วยการเอาเทปปิดที่ปาก มือ เท้า ใช้ถุงดำคลุมหัวไม่ให้หายใจได้

จากนั้น วันที่ 13 ตุลาคม 2562 ได้เข้าไปที่บ้านอีกรอบเพื่อที่จะจัดการกับศพผู้ตาย นำไปยัดใส่ในตู้เย็นและใช้ปูนโบกทับไว้ เมื่อดูจากที่เกิดเหตุและหลักฐานเชื่อว่า ผู้ต้องหาลงมือทำเพียงคนเดียว ถ้ามีผู้ร่วมกระทำหลายคน คงจะจัดการกับศพหรือไปทิ้งที่อื่นก็เป็นไปได้ การลงมือฆ่าชิงทรัพย์และใช้เทปปิด อย่างมีเทคนิคเพราะผู้ต้องหาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ อปพร.หรือกู้ภัยมาก่อน มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้ ส่วนกรณีเพื่อนที่มีการนำรถของผู้ตายเอาไปฝากไว้ ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าร่วมลงมือหรือไม่เบื้องต้นทราบเพียงแต่ว่าได้มีการเอารถไปฝากเท่านั้น

"หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวนายเอ็มไปสืบสวนขยายผล เพื่อดูว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่อย่างไร ยืนยันว่าตอนนี้ตามพยานหลักฐาน ยังมีผู้ต้องหาเพียง 1 รายคือนายเอ็ม" พล.ต.ท.ประจวบ กลา่ว

ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงผู้ต้องหาได้กราบขอโทษนายวรพันธ์ จิรเจริญยิ่ง พี่ชายของ น.ส.วรรณี และนายเอ็ม ได้ร่ำไห้กราบขอโทษต่อญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต รู้สึกเสียใจที่ได้ก่อเหตุลงไปเพราะความคิดชั่ววูบที่อยากได้เงินเท่านั้น พอทำแล้วก็รู้สึกเสียใจ เศร้าใจอยู่ตลอดเวลา และหากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำเด็ดขาด

แต่ทางญาติผู้ตายไม่ขอยกโทษหรือไม่อโหสิให้เนื่องจากผู้ตายบอกกล่าวมาตลอดว่านายเอ็มเป็นคนดีมีจิตใจงดงาม ซึ่งประโยคที่ญาติผู้ตายเจ็บแค้นมากสุดคือ ผู้ต้องหารับว่า เอาถุงขยะคลุมหัวหวังให้ขาดอากาศหายใจ ระหว่างนั้นก็นั่งเล่นมือถือรอเวลาไปเรื่อยๆนานหลายชั่วโมง กระทั่งผู้ตายแน่นิ่ง ไม่หายใจ มั่นใจว่าเสียชีวิตแน่แล้ว จึงออกจากบ้านไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นวันที่ 13 ต.ค. ก็กลับเข้ามาที่บ้านดูศพผู้ตาย และเอาบัตรเอทีเอ็มไปกเพื่อซื้อปูนซีเมนต์มา ก่อนจะล้มตู้เย็นให้นอนลงแล้วนำร่างผู้ตายยัดลงไปและเอาปูนโรยไว้เพื่อซับน้ำเหลืองไม่ให้ไหลออก จากนั้นก็ขับรถกลับเข้ามานอนกับกิ๊กสาว และชวนกันไปเที่ยวที่ จ.เชียงรายและ จ.ลำปาง