รมว.ยุติธรรมสั่งDSIเร่งปิดคดีเทรดเงินต่างประเทศ-แชร์ลูกโซ่

"สมศักดิ์" สั่งดีเอสไอเร่งปิดคดีเทรดเงินตราต่างประเทศ-แชร์ลูกโซ่ มูลค่าเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.62 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เพื่อยกระดับในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคงซึ่งมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาระบบงานยุติธรรมและกฎหมายให้มีเอกภาพรวมทั้ง อำนวยความยุติธรรมเชิงรุกเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังจากเปิดศูนย์ดังกล่าวแล้ว นายสมศักดิ์ ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 5 เรื่องประกอบด้วย

1. ตัวแทนผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนซื้อ-ขายเงินสกุลดิจิทัล และเงินตราต่าง ประเทศกับบริษัทแห่งหนึ่งตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 แม่ทีมจะเข้ามาชักชวนและสอนวิธีการเทรดเงินตราต่างประเทศ โดยให้นำเงินบาทไทย มาซื้อขายกับผู้นำ ซึ่งจะได้เงินเร็วกว่าการนำเงินไปแลกกับระบบกระเป๋าเงินดิจิทัลการลงทุนกับบริษัทนี้ จึงเป็นการโอนเงินตรงไปยังกลุ่มแม่ทีม และจะได้เงินปันผลภายใน 1 สัปดาห์ แต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม่ทีมแจ้งว่าเว็บไซต์จะปรับปรุงระบบ และจะไม่ได้เงินปันผลแบบเดิม แต่หลอกให้ผู้เสียหายเปลี่ยนไปลงทุนกับบริษัท TRADENANCE INCORPORATION แต่ไม่นานก็ปิดเว็บไซต์หนีเช่นกัน มีนักลงทุนเสียหายกว่า 140 คน รวมมูลกว่ากว่า 94 ล้านบาท และอาจมีผู้เสียหายทั่วโลกกว่า 400,000 คน

2. ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับบริษัท TRADENANCE INCORPORATION โดยบริษัทดังกล่าวอ้างว่าได้มีการจดทะเบียนบริษัทอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และมีบริษัทตั้งอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ จัดแพคเกจการลงทุนอย่างจูงใจ เริ่มเปิดให้ลงทุนเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา และหลอกว่าเป็นการซื้อขาย เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ (cryptocurrency) โดยจะแบ่งเงินปันผลกำไรให้แก่นักลงทุน อ้างจะมีรายได้จากการลงทุน 500% ในเวลา 220 วัน โดยมีค่าตอบแทน 1 ถึง 2.75% ต่อทุกวัน เว้นเสาร์อาทิตย์ และสามารถเบิกถอนเงินปันผลได้ทุกวัน

ซึ่งนักลงทุนที่สนใจมักจะเข้าร่วมกลุ่ม LINE แต่บางรายถูกชักชวนโดยแม่ทีม หากหาสมาชิกได้มาก จะมีระดับเพชรของแม่ทีม รางวัลตอบแทน เช่น ทัวร์ต่างประเทศ นาฬิกาหรู รถยนต์หรู และบ้าน ในช่วงแรกนักลงทุนสามารถเบิกถอนเงินได้ และเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา หน้าเว็บไซต์ถูกปิดลง ไม่สามารถถอนเงินได้ นักลงทุนเสียหายกว่า 500 คน รวมมูลกว่ากว่า 70 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กรณีพบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการลงทุนในธุรกิจการเงินนอกระบบพบว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าวผู้เสียหายได้มายื่นเรื่องไว้กับดีเอสไอแล้ว

3 คดีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกาถูกจับกุมข้อหายาเสพติดที่สภ.พังงัน จ.สุราษฎร์ธานี อ้างว่าไม่ได้รับการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่

4.กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นหนี้นอกระบบและขายฝากที่ดินจาก จ.นครนายก

5.คดีการเสียชีวิตของน.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลัลลาเบล ซึ่งทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์กับกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากยังมีความสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต และขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ช่วยตรวจพิสูจน์ซ้ำ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับคดีร้องทุกข์ของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดหลังจากศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขรับเรื่องไว้ทั้งหมดแล้ว ตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นทุกคดีภายใน 3 เดือน