posttoday

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคุกตลอดชีวิต "เปรี้ยว-เอิน-แจ้" เพิ่มโทษ "วศิน"

30 กันยายน 2562

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก "เปรี้ยว-เอิน-แจ้" ตลอดชีวิตแต่สารภาพ ลดโทษเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน เพิ่มโทษ"วศิน" จำเลยที่ 4 เป็นร่วมกันฆ่า

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก "เปรี้ยว-เอิน-แจ้" ตลอดชีวิตแต่สารภาพ ลดโทษเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน เพิ่มโทษ"วศิน" จำเลยที่ 4 เป็นร่วมกันฆ่า

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 62 นายนพดล สีดาทัน ในฐานะทนายโจทก์ร่วมของครอบครัว น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม เปิดเผยว่า วันนี้ศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำสั่งเบิกตัวจำเลยที่ 4 คือนายวศิน นามพรม จากเรือนจำกลางขอนแก่น มาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีฆ่าน้องแอ๋ม ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นของศาล จ.ขอนแก่นได้มีคำพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2561 ให้นายวศิน จำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการฆ่าผู้อื่น ตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพ ให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ฐานร่วมกันลักทรัพย์ จำคุก 2 ปี รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4 ทั้งสิ้น 23 ปี 4 เดือน 20 วัน

"ส่วนจำเลยที่ 1 น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว และจำเลยที่ 2น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอินและจำเลยที่ 5 น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ซึ่งถูกขังที่เรือนจำคลองไผ่ ซึ่งศาลศาลจังหวัดสีคิ้วได้อ่าสคำพิพากษาไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้เปรี้ยว, เอิน, แจ้ จำคุกตลอดชีวิต แต่ผู้ต้องหาสารภาพ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษ เปรี้ยว, เอิน จำคุก 34 ปี 6 เดือน, แจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนท์ จำคุก 2 ปี รับสารภาพคงเหลือจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งขณะนี้เบนท์พ้นโทษแล้ว"

นายนพดล กล่าวอีกว่า สำหรับการยื่นอุทธรณ์นั้น ทางโจทก์และโจทก์ร่วม รวมทั้งอัยการ ได้ยื่นอุทธรณ์ให้เข้ามาตรา 289 ในเรื่องของฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน และยื่นอุทธรณ์เพิ่ม ในประเด็นที่ นายวศิน ไม่ใช่ผู้สนับสนุน แต่เป็นตัวการร่วมฆ่าน้องแอ๋ม ซึ่งในวันนี้ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาว่า อุทธรณ์ของโจทก์และอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมฟังขึ้นให้เพิ่มโทษ จำเลยที่ 4 คือนายวศิน จากเดิมที่ลงโทษ ในฐานะผู้สนับสนุนแก้ไขเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดโดยลงโทษจำคุก 34 ปี 6 เดือน เท่ากับ น.ส.เปรี้ยวจำเลยที่ 1 และ น.ส.เอิน จำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 5 น.ส. แจ้ ลงโทษจำคุก 33 ปี 9 เดือน

"ศาลให้เหตุผลในการเพิ่มโทษ นายวศิน ว่า จากการที่ทางโจทก์และโจทก์ร่วมได้อุทธรณ์ว่าในการที่ฆ่าน้องแอ๋มครั้งนี้ เป็นขั้นตอนมีการแบ่งหน้าที่กันเป็นขั้นตอนโดยนายวศิน จำเลยที่ 4 เป็นผู้ขับรถ ถ้าไม่มีผู้ขับรถและไม่ได้ร่วมในการกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ในรถ น้องแอ๋มก็จะไม่ถูกฆ่า ก็ถือว่านายวศิน เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่ขับรถพาไปสถานที่ต่างๆ และที่ศาลไม่รับฟังอุทธรณ์ของจำเลยเพราะ ไม่มีใครห้ามใคร ในระหว่างที่หาซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับการฆ่า สรุปว่าไม่มีการโต้แย้งกันในการเสียชีวิต โดยน.ส.เปรี้ยว ลงไปซื้ออุปกรณ์ คือถุงดำที่สำคัญกับการฆ่าปรากฏว่าคนในรถอีก 3 คนไม่มีใครห้าม ขณะเดียวฝั่งของโจทก์ร่วมยังติดใจอยู่ว่า ในระหว่างที่ลงไปซื้ออุปกรณ์ เพื่อขึ้นมามัด ไม่มีอากาศหายใจในระหว่างนี้ จะเป็นการไตร่ตรอง เพราะว่ามีเวลาในการยับยั้งชั่งใจ จึงติดใจในประเด็นว่า ลงไปซื้ออุปกรณ์เพื่อการฆ่า ถุงดำก็คือขาดอากาศหายใจคล้ายๆเหมือนกับซื้อมีดซื้อปืน "

นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับค่าเสียหายนั้นพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือให้จำเลยที่ 1และ2 และ 4 และ5 จ่ายค่าสินไหมให้ทางครอบครัวผู้ตาย จำนวน 1,070,000บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งได้ชำระมาแล้ว 50,000 บาท คงเหลือ 1,020,000บาท ส่วนจำเลยที่3 น.ส.เบนท์ ติดคุกในข้อหาเดียวคือรับของโจร ซึ่งจำเลยที่ 3 จะไม่ได้จ่ายค่าเสียหาย ซึ่งสถานะของ น.ส.เบนท์ ตอนนี้จบไปแล้ว วันนี้จำเลยทั้ง 4 ได้อุทธรณ์ว่าเป็นการทำร้ายร่างกายและทำให้ตายซึ่งการตายเกิดจากการทำร้ายร่างกาย ไม่ได้มีการเจตนาฆ่า ศาลใช้คำว่าคำอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้นซึ่งทั้ง 4 คนมีสิทธิที่จะฎีกาต่อไป

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน