กู้เรือประมงล่มปากแม่น้ำเจ้าพระยาสำเร็จเจ้าท่าเร่งสอบปมถูกเรือใหญ่วิ่งแซง

สมุทรปราการ-กู้ซากเรือประมงล่มปากแม่น้ำเจ้าพระยาได้แล้วพบศพผู้เสียชีวิต1ราย มูลค่าความเสียหาย10ล้านบาทกรมเจ้าท่าเร่งสอบปมเหตุเรือขนาดใหญ่แซงด้วยความเร็ว

กรณีเหตุเรือประมง ป.ธนูทอง พลิกคว่ำหลังถูกเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่วิ่งแซงในร่องน้ำเดียวกันทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดจนพลิกคว่ำจมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณร่องเดินเรือทุนที่ 18 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุลูกเรือประมงกว่า 23 ต้องกระโดดหนีตายลอยคออยู่ในแม่น้ำนานนับชั่วโมง และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายสิงห์ เกื้อกิจ อายุ 50 ปี คิดในซากเรือและมีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ3คน

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 10 ก.ย.62 ตลอดทั้งคืนหลังเกิดเหตุนายจุฑาวัฒน์ มาบุญธรรม เจ้าของเรือ ได้ระดมคนงานให้นำเรือประมงออกไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อทำการกู้เรือป.ธนูทองขึ้นจากน้ำและเรือประมงลำดังกล่าวสามารถยกขึ้นมาลอยลำได้แล้ว ค่าเสียหายของเรือรวมทั้งเครื่องมือในการหาปลาคาดว่าประมาณ10 ล้านบาท

นายจุฑาวัฒน์ ยืนยันว่าจะช่วยเหลือครอบครัวของนายสิงห์ เกื้อกิจอย่างเต็มที่เนื่องจากผู้ตายได้ทำงานอยู่มานานกว่า10ปีแล้วทั้งนี้หลังจากเสร็จขั้นตอนแล้วจะได้รีบนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นบ้านเกิดต่อไป

นายอำนาจ สอนหมวก ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เปิดเผยว่าโดยปกติการเดินเรือก็มีระเบียบของการเดือนเรืออยู่แล้วแต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เจ้าท่าก็จะมีการกำชับให้ผู้เดินเรือรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัดส่วนเรื่องของคดีที่ทางลูกเรืออ้างว่าอุบัติเหตุเกิดจากคลื่นจากเรือขนาดใหญ่ที่แซงด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ฯเองต้องขอเวลาสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเรือลำที่เกิดอุบัติเหตุ หลังจากกู้ขึ้นมาแล้วและซ่อมเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ฯจะเข้าไปตรวจสภาพหากมีสภาพสมบูรณ์ตามระเบียบ จึงจะอนุญาตให้ใช้งานได้ตามปกติ

ลูกเรือประมง