พบวัตถุต้องสงสัยเพิ่ม2จุดรถไฟฟ้าศาลาแดง-แอร์พอร์ตลิงค์ หัวหมาก

กทม.ตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ระเบิดอัศวินตั้งทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์24ชั่วโมงเร่งตรวจกล้องวงจรปิดทุกจุดให้เรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา

เมื่อเวลา 12.25 น. ได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยเพิ่มอีก 2 จุด จุดแรก บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางรัก เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกันพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ EOD เข้าตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าต้องสงสัย ใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ หัวหมาก ยังไม่แน่ชัดว่าในกระเป๋าจะเป็นระเบิดหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบ

ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ คือ รถไฟฟ้าช่องนนทรี หน้าอาคารมหานคร, บริเวณ ซอยพระราม 9 แยก 57/1 บาดเจ็บ 2ราย, ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ, ไฟไหม้บริเวณประตูน้ำ และ ป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการเร่งด่วนให้ทุกพื้นที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด

ที่ศาลาว่าการกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวภายหลังเกิดเหตุระเบิดทั่วกรุง ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและต้องประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด รวม 11 จุด ได้แก่ ระเบิดในซอยพระราม 9 ซอย 57, ระเบิดใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี, มีเสียงระเบิดแถวคิงส์พาวเวอร์ 2 ครั้ง, มีเสียงระเบิด 3 ครั้ง พร้อมกับพบวัตถุระเบิด ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ, เจอวัตถุระเบิด อาคารมหานคร และล่าสุดเวลา 12.08 น.พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง ส่วนเหตุไฟไหม้ เกิดขึ้นที่ไฟไหม้อาคารดีดีเฮ้าส์เพชรบุรี19 (ประตูน้ำ), ไฟไหม้อาคารโฮฟวีไลน์ (ประตูน้ำ), ไฟไหม้ โรงแรมอินทรา (ประตูน้ำ) และไฟไหม้ตึกใบหยก

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจึงได้ตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์ โดยมีผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป โดยให้รายงานความคืบหน้าและการประสานงานด้านต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นระยะ นอกจากนี้ มอบหมายสำนักการจราจรและขนส่งตรวจสอบและเชื่อมสัญญาณจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ทุกจุดให้พร้อมเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยมีข้าราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักการแพทย์ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำศูนย์ดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมในการรายงานข้อมูล หากฝ่ายความมั่นคงร้องขอ โดยเฉพาะภาพจากกล้องซีซีทีวี ซึ่งกทม.ได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยืนยันว่ากล้องซีซีทีวีบริเวณที่เกิดเหตุสามารถใช้งานได้ทุกตัว ทั้งนี้ ได้รับการประสานจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้กทม.จัดเตรียมข้อมูลทั้งภาพกล้องซีซีทีวี เพื่อหาพยานและบุคคลต้องสงสัยไว้ด้วย เพื่อสนับสนุนข้อมูลหลักฐานให้กับฝ่ายความมั่นคง

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ออกข้อความ (ว.8) ไปถึงผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต และผู้อำนวยการสำนักงานต่างๆ ให้ช่วยดูแลสอดส่องบุคคลและวัตถุต้องสงสัย หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยดูแลสอดส่องบุคคลและวัตถุต้องสงสัย หากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งสำนักงานเขตในพื้นที่ หรือโทร 191 ทั้งนี้ อย่าไปแตะต้องหรือไปสัมผัส หรือเคลื่อนย้ายวัตถุผิดปกติ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้
อย่างไรก็ตาม ได้รายงานสถานการณ์ต่อพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รับทราบสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมได้มอบหมายให้นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นำกระเช้าดอกไม้ไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

ด้าน พ.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนให้ทุกส่วนราชการ หัวหน้าสถานีดับเพลิง นักดับเพลิง กทม. และบุคลากรในสังกัด พร้อมให้การช่วยเหลือทุกสถานการณ์ สืบเนื่องจากกรณีสถานการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายจุดเช้าวันนี้ พร้อมกำชับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทุกนาย เตรียมพร้อมทั้งรถและอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งาน หากพบเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 199 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ สรุปเหตุระเบิดทั่วกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 1. พระราม9 มีผู้บาดเจ็บนำส่งรพ.สิรินธร2ราย(นอนรพ.ทั้งคู่) รพ.วิภาราม1ราย รวม3ราย เป็นเพศหญิงทั้งหมด และ 2. ที่สถานีบีทีเอส ช่องนนทรีมีผู้บาดเจ็บเพศชาย1ราย ไปรักษาโรงพยาบาลวิภาราม