posttoday

คนแจ้ง "รถวิ่งบนทางเท้า" เตรียมได้ส่วนแบ่งเพิ่ม กทม.เล็งขึ้นค่าปรับ

10 กรกฎาคม 2562

รองผู้ว่า กทม.ฮึ่มเล็งเพิ่มโทษค่าปรับขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ชี้โทษหนักสุดปรับเพิ่มได้ถึง 5พัน

รองผู้ว่า กทม.ฮึ่มเล็งเพิ่มโทษค่าปรับขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ชี้โทษหนักสุดปรับเพิ่มได้ถึง 5พัน

กำลังเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ และไอเดียใหม่การหารายพิเศษของใครหลายคนในเวลานี้สำหรับ “การดักถ่ายภาพรถจักรยานยนต์ ขึ้นไปขับขี่บนฟุตปาธ” หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์โชว์เงิน 1,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งการแจ้งการกระทำผิดกฎจราจรดังกล่าว 2 ครั้งจากสำนักงานเขตคลองเตย

ทว่าแม้เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายดี แต่ถ้าพูดถึงพฤติกรรมผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ขับบนทางเท้า ถือว่าเป็นปัญหาที่ไม่เคยแก้ไขได้สักที แม้ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปี 2561 มีการเพิ่มโทษค่าปรับผู้ฝ่าฝืนจาก 500 เป็น 1,000 บาท แต่ก็ยังพบว่าหลายครั้งคนเดินสัญจรบนฟุตปาธยังคงได้รับอุบัติเหตุจากกลุ่มนี้

สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะกำกับดูแลสำนักเทศกิจ เปิดเผยกับโพสต์ทูเดย์ว่า หลังดำเนินโครงการแบ่งค่าปรับกับผู้แจ้งเบาะแสมากว่า 1 ปี เปรียบเทียบปรับการกระทำความผิดดังกล่าวได้กว่า 10 ล้านบาท มีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามา 16,900 คดี และดำเนินการทางกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว 959 คดี แบ่งค่าปรับครึ่งหนึ่งให้ผู้แจ้งรวมเป็นเงิน 3.9 แสนบาท ในจำนวนนี้มีผู้ไม่ประสงค์รับส่วนแบ่งเป็นเงิน 8 หมื่นกว่าบาท

รองผู้ว่าฯ กทม. อธิบายถึงสาเหตุการทำงานล่าช้าจนมีเรื่องค้างอีกว่า 1 หมื่นคดี ว่าเนื่องจากเดิม กทม.มีข้อจำกัดไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้กระทำความผิดได้ทันที เพราะต้องทำหนังสือประสานไปยังกรมการขนส่งทางบกซึ่งใช้ระยะเวลาหลายเดือนบางครั้งถึง 1 ปี แต่หลังช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ที่ กทม.ทำเอ็มโอยูกับกรมขนส่งฯ ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจสามารถดูข้อมูลผู้กระทำความผิดได้ทันที

อย่างไรก็ตามขณะนี้ กทม.กำลังมีการหารือกันเพื่อพิจารณาเพิ่มโทษ เพราะมองว่าแม้ตอนนี้การกระทำผิดดังกล่าวมีโทษปรับ 1 พันบาทก็ยังพบการฝ่าฝืน แต่ถึงอย่างไรต้องศึกษาก่อนเพราะอัตราโทษการขับขี่บนทางเท้ามีโทษปรับได้สูงสุด 5 พันบาท

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการให้ไปจัดหากล้องซีซีทีวีที่มีความสามารถตรวจจับป้ายทะเบียบและเสื้อวินรถจักรยานยนตร์ที่กระทำผิดได้ทันที เพื่อจะได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับย้อนหลัง ซึ่งขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างของบประมาณ และอนาคตคาดว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ กทม.สามารถส่งใบเปรียบเทียบไปยังบ้านผู้กระทำผิดได้เหมือนใบสั่งตำรวจ

รองผู้ว่าฯ กทม. มองกรณีที่ตอนนี้หลายคนอยากหารายได้จากการแจ้งเบาะแส ว่าไม่น่าเป็นเช่นนั้นเนื่องจากหลายคนแจ้งโดยไม่อยากได้ค่าตอบแทน แต่เพราะอยากเห็นบ้างเมืองดี ดังนั้นควรทำให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อจะได้ไม่มีคนกล้ากระทำผิด ซึ่งน่าจะดีกว่า

“ตราบใดคนไม่มีจิตคิดจะเผื่อแผ่กับคนเดินทางเท้าและเอาความสะดวก ผมว่ามันก็ลำบาก คงต้องใช้กฎหมายที่เข้มงวด”

ข่าวล่าสุด

เสร็จก่อนกำหนด! มอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฟรี บางปะอิน-โคราช รับปีใหม่ 69