แม่สอดระทึกพม่ายิงระเบิดข้ามฝั่งไทย
ชายแดนไทย-พม่าตึงเครียดหลังกองกำลังกะเหรี่ยงปะทะทหารพม่า อาวุธสงครามเอ็ม79-อาร์พีจีตกฝั่งไทยทั้งด่านแม่สอด-เจดีย์สามองค์ นายกฯสั่งกลาโหมรายงานสถานการณ์ต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ลี้ภัยทะลักเข้าไทยนับหมื่น
ชายแดนไทย-พม่าตึงเครียดหลังกองกำลังกะเหรี่ยงปะทะทหารพม่า อาวุธสงครามเอ็ม79-อาร์พีจีตกฝั่งไทยทั้งด่านแม่สอด-เจดีย์สามองค์ นายกฯสั่งกลาโหมรายงานสถานการณ์ต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ลี้ภัยทะลักเข้าไทยนับหมื่น
นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด พร้อม นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด และหน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดนได้ประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมหาพื้นที่รองรับผู้อพยพชาวพม่า ที่หนีภัยสงครามจากเมียวดี เข้ามาฝั่งไทย จำนวนกว่าหมื่นคน โดยผู้อพยพได้ทยอยเดินทางข้ามแม่น้ำเมย หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารพม่า และ กลุ่มกองกำลังกระเหรี่ยงDKBA
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด ได้ลำเลียงผู้อพยพมาไว้ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด โดยมีกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) อส.และตำรวจ ให้การดูแล ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ลี้ภัยทยอยมาเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสาย
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า หากสถานการณ์ยึดเยื้อ จะมีผู้ลี้ภัยถึง 10,000 คนแน่นอน ส่วนสาเหตุที่ชาวพม่าเข้ามา เนื่องมาจากการสู้รบในฝั่งพม่า และมีข่าวว่า จะมีการสู้รบกันอีก ซึ่งถ้ามีการสู้รบอีกก็จะยืดเยื้อแน่นอน และทราบว่า มีการเจรจากันอยู่ และขอภาวนาให้สามารถเจรจากันได้ เพื่อที่กลุ่มผู้ลี้ภัยจะได้กลับไป
ด้าน พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปตรวจพื้นที่ชายแดนไทย – พม่า ที่บริเวณบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยระบุว่า เท่าที่ทราบฝ่ายพม่าเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้บ้างแล้ว ส่วนผู้ลี้ภัยนั้น ฝ่ายพม่าจะแจ้งมาให้ทราบว่า จะให้ส่งกลับเมื่อไหร่ โดยขณะนี้มีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าไทยเกือบ 2 หมื่นคนแล้ว
เหตุปะทะชายแดนลามสังขละบุรี เอ็ม79ตกใส่ด่านเจดีย์สามองค์
นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ความตึงเครียดที่บริเวณชายแดนด่านแม่สอด จ.ตาก ได้ขยายผลมาถึงบ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับเขต อ.พญาตองซู ประเทศพม่า
ล่าสุดได้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างกองกำลังของกะเหรี่ยงไม่ทราบฝ่าย ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ยิงปะทะกับกองกำลังของทหารพม่าที่ชายแดนแม่สอด โดยระหว่างการปะทะกันของกองกำลังทั้งสองฝ่าย ได้มีกระสุนเอ็ม 79 ข้ามมาตกยังฝั่งไทย จำนวน 2 ลูก บริเวณด้านหลังของพระสยามเทวาธิราช นอกจากนี้ยังตกใส่เสาอากาศของป้อมตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สังขละบุรี ที่เจดีย์สามองค์ แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทั้งนี้ทางอำเภอได้มีการจัดระเบียบควบคุมฝูงชนไว้ที่โรงเรียนพระเจดีย์สามองค์เรียบร้อยแล้ว โดยประสานกำลังกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ อส. โดยวางกำลังทหารจำนวน 1 กองร้อย และ อส.อีก 1 กองร้อย รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของอำเภอสังขละบุรี คณะกรรมหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อตรึงกำลังและเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ในเขต อ.พญาตองซู ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์ออกไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร เท่านั้น ทางอำเภอจึงได้ประกาศห้ามมิให้คนเข้า-ออกบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์แล้ว เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากกองกำลังทั้งสองฝ่ายยังคงมีการปะทะกันเช่นนี้ต่อไป คาดว่าจะมีคนอพยพหนีเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันกับที่ อ.แม่สอด อย่างแน่นอน
นายกฯสั่งกลาโหมจับตาเหตุปะทะชายแดน
เมื่อเวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รายงานเหตุปะทะระหว่างกองกำลังกลุ่มกะเหรี่ยงและทหารพม่าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง โดยการปะทะดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของทางพม่า ซึ่งทางการไทยคงจะดูแลในแง่ของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากขณะนี้มีชนกลุ่มน้อยหนีการปะทะเข้ามายังชายแดนไทยเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้รัฐบาลจะยึดหลักมนุษยธรรมในการดูแลชนกลุ่มน้อย ซึ่งจเป็นต้องทำความเข้าใจกับองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่า สุดท้ายแล้วต้องส่งคนกลุ่มนี้กลับประเทศ แม้ทางยูเอ็นจะไม่ต้องการให้ส่งกลับก็ตาม โดยคาดว่าภายใน 3 เดือนนี้พม่าจะยังคงมีปัญหาเรื่องการเมืองภายในอยู่และยืนยันว่าไทยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
กองกำลังกะเหรี่ยงยึดเมียวดีได้แล้ว
เมื่อเวลา 12.30 น. มีรายงานว่า กองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ซึ่งได้ผนึกกำลังกับ กองกำลังกะเหรี่ยง KNU ได้เข้ายึดเมืองเหมียวดีของพม่าได้แล้ว รวมทั้งยังได้ยึดศูนย์ราชการของพม่าทั้งในเมืองเมียวดีและตลอดแนวชายแดนตั้งแต่ อ.พบพระ-อ.ท่าสองยาง จ.ตากได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากลุ่มกะเหรี่ยงได้จุดไฟเผาภายในเมืองเมียวดีหลายจุด รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เหล่าชนกลุ่มน้อยพม่าได้หนีเตลิดเข้ามายังฝั่งไทยจากเหตุปะทะดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องเข้าควบคุมไม่ให้รุกเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทย
ทั้งนี้เมืองเมียวดีเป็นเมืองชายแดนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก และถือเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของการค้าชายแดน ซึ่งหลังจากที่เมืองเมียวดีถูกกลุ่มกะเหรี่ยงบุกยึด ทำให้คาดว่า การค้าชายแดนของไทย-พม่า มีแนวโน้มที่จะทรุดต่อไปหลังจากที่การค้าชายแดนซบเซาลงนับตั้งแต่พม่าได้ปิดด่านเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ชายแดนเดือดกระเหรี่ยงพุทธปะทะทหารพม่า
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งปิดถนนเข้าชายแดนไทย-พม่า และอพยพคนไทยออกมาจากพื้นที่ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าตลาดริมเมย ได้ปิดร้านและอพยพออกจากพื้นที่แล้ว หลังเกิดเหตุ กองกำลัง กลุ่มกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) และ กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ (KNU) ภายใต้การนำของ พ.อ.นะเคามวย ผู้บังคับการพล 999 ค่ายวาเล่ย์ ได้เคลื่อนกำลังทหารทั้งหมด ประมาณ 1 กองพัน เข้ามาประชิดทางทิศใต้และทิศเหนือของเมืองเมียวดี และได้ปะทะกับกองกำลังทหารของพม่าตามแนวชายแดนแม่สอด โดยจากการปะทะดังกล่าวได้ทำให้มี ลูกระเบิดอาร์พีจี ถูกยิงตกเข้ามายังเขตไทยจำนวน 4 นัด คือ ที่ตลาดริมเมย 2 นัด และตกอยู่หัวโค้งแม่เมยซิทตี้(หลังศุลกากร) อีก 2 นัด ทำให้ราษฎรพม่าที่อยู่ในฝั่งไทยได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน และคนไทยได้รับบาดเจ็บ 4 คน
ด้าน พ.อ.สุภโชค ธวัชพีระชัย ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหาราบที่ 4 แม่สอด ได้สั่งการให้ทหาร เพิ่มกำลังพลและอาวุธเข้าประจำการ ประจันหน้ากับกองกำลังในฝั่งพม่าที่ใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า และทหารไทยได้มีการตั้งฐานอาวุธปืนหนัก ที่ฐานปฎิบัติการแห่งหนึ่ง เพื่อยิงตอบโต้หากเหตุการณ์บานปลายรุนแรงและทำให้เกิดผลเสียหายกับประชาชนคนไทย
ล่าสุดได้มีการยิงปะทะกันด้วยอาวุธปืนเล็กยาวประจำกาย เสียงปืนดังเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง
เร่งอพยพนักเรียนออกจากพื้นที่อันตราย
นายสามารถ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง ทำการอพยพนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ออกจากพื้นที่จุดอันตรายที่มีลูกกระสุนอาวุธปืนหนักมาตกฝั่งไทย ที่ตลาดริมเมย เชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก โดยการอพยพนักเรียนไทย ทั้งโรงเรียนภัทรวิทยา-โรงเรียนบ้านห้วยม่วง-โรงเรียนบ้านท่าอาจและโรงเรียนบ้านวังตะเคียน เป็นไปอย่างชุลมุน วุ่นวาย
เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าช่วยเหลือเพื่อนำนักเรียนกลับบ้าน เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนไม่น่าไว้วางใจ นอกจากนี้ยังมีผู้อพยพจากฝั่งพม่าอพยพเข้ามาที่ชายแดนไทยและเข้าไปอยู่ที่วัดท่าสายโทรเลข จำนวนนับ 1,000 คน
ขณะเดียวกันฝ่ายไทยพร้อมให้การช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยชาวพม่าตามหลักสิทธิมนุษยชน และได้มีการปิดถนนที่จะเดินทางไปยังชายแดนทุกจุดเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนไทยนอกจากนี้ยังได้ปิดสำนักงานจัดหางาน-และหน่วยงานราชการอื่นๆ รวมทั้งโรงเรียนต่างๆ ที่เปิดทำการที่ริมเมย
ด้านพ.อ.สุภโชค ธวัชพีระชัย ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหาราบที่ 4 แม่สอด ได้สั่งการให้ทหาร เพิ่มกำลังพลและอาวุธเข้าประจัญหน้ากับกองกำลังในฝั่งพม่าที่ใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า และทหารไทยได้มีการตั้งฐานอาวุธปืนหนัก ที่ฐานปฏิบัติการ


